The passive
ประโยค
Passive voice คือประโยคที่ประธานเป็นผู้ถูกกระทำ
หรือประโยคที่อยู่ในรูป Subject + Verb to be + Verb 3 (Past Participle) ซึ่งส่วนมากจะถูกเปลี่ยนจากประโยค Active voice (ประโยคที่อยู่ในรูป
Subject + Verb1) สำหรับคำกริยาที่จะนำมาใช้ในประโยค
Passive Voice ต้องเป็นคำกริยาที่มีกรรมเท่านั้น
เพราะคำแปลจะต้องมีคำว่า ใครหรืออะไร ถูกทำอะไรเสมอ ส่วนคำว่า by ที่แปลว่าโดย บางครั้งอาจจะมีหรือไม่มีก็ได้ ขึ้นอยู่กับผู้พูด
และบางประโยคสามารถละไว้ได้
หลักการเปลี่ยนประโยค “Active” เป็นประโยค “Passive”
1. นำเอากรรมของประโยค Active
voice ไปเป็นประธานของประโยค Passive voice
- Active voice: Nammon read a book.
- Passive voice: A book is read by
Nammon.
2. นำเอาประธานของประโยค
Active voice ไปเป็นกรรมของประโยค Passive voice และมี by นำหน้าประธานเดิม
แต่ในบางกรณีอาจจะสามารถเขียนโดยไม่ต้องมี by ก็ได้
Active voice: Nammon read a book.
Passive voice: A book is read by
Nammon.
3. เมื่อเปลี่ยนประโยค Active
voice เป็นประโยค Passive voice กริยาจะต้องเป็นรูปกริยาช่องที่
3 (Past Participle) และตามหลัง Verb to be.( is, am
, are, was , were, be, being, been) ต้องดูตามประธาน(ของประโยคใหม่)
และ tense
Active voice: Nammon read a book.
Passive voice: A book is read by
Nammon.
จากตัวอย่างข้างต้นทั้งหมด ไม่ว่า
ประโยค Active จะอยู่ใน tense ใดก็ตาม
เมื่อเปลี่ยนเป็นประโยค Passive ยังไงก็ต้องอยู่ในรูปของ Subject
+ Verb to be + Verb 3 (Past Participle) เสมอ แต่ยังคงต้องไม่ทิ้ง tense
เดิม
รูปประโยค Passive แบ่งตาม tense
ต่างๆ
จากการที่ได้เรียนเรื่อง
Passive
นั้น เราต่อยอดมาจากการเรียน tense ถ้าหากเรามีความเข้าใจเรื่อง tense อย่างแม่นยำ มันก็จะเป็นเรื่องง่ายที่จะเรียน Passive หรือ
การเรียนภาษาอังกฤษในเรื่องอื่นๆ
Tense
ทั้ง 12 ที่เรียนไปแล้วเป็นประโยค Active
Voice คือ ประธานเป็นคนกระทำทั้งหมด โดยไม่พูดถึง Passive
Voice เลย ทั้งนี้ก็เพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ โครงสร้าง Active
Voice เสียก่อน ถ้าเข้าใจดีแล้ว การเรียนรู้ Passive Voice ก็จะไม่ยากเท่าไหร่และภาษาอังกฤษก็จะเป็นเรื่องง่ายๆทันที
เพราะผู้เรียนสามารถอ่านเนื้อหาต่างๆที่เป็นภาษาอังกฤษได้แล้ว
อาจติดขัดบ้างที่คำศัพท์ก็สามารถใช้ดิกชันนารีช่วยได้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น