วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

A little princess แปลนวนิยาย








https://www.youtube.com/watch?v=WyCzOTRbPug

บทที่1 โรงเรียนในประเทศอังกฤษ
         วันหนึ่งในอากาศที่หนาวเย็นเด็กหญิงตัวน้อยและพ่อของหล่อนมาถึงในลอนดอน. ซาร่า คูรว์ อายุ 7 ขวบ เธอผมยาวสีดำและตาสีเขียว เธอนั่งในรับจ้างถัดจากพ่อของของเธอและมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีบ้านสูงและท้องฟ้าที่มืด
"เธอกำลังคิดอะไร ซาร่า? " นายครูว์ ถาม "เธอเงียบ"เขาว่า มือโอบลูกสาว "ฉันคิดเกี่ยวกับบ้านของเราในอินเดีย" ซาร่าพูด เหมือนกับว่าแสงแดดร้อน และท้องฟ้าที่สดใส ฉันคิดว่า ฉันไม่ชอบ ประเทศอังกฤษมากเลย พ่อ.
"ใช มันแตกต่างจากอินเดีย" พ่อของเธอพูด.
"แต่เธอต้องไปโรงเรียนในลอนดอนและฉันต้องกลับไปอินเดียเพื่อทำงาน"
"ใช่ พ่อ ฉันรู้" ซาร่าพูด "แต่ฉันต้องการพ่อ ขอร้องละมาโรงเรียนกับฉัน ฉันสามารถช่วยคุณในบทเรียนของคุณได้"
นายครูว์ เขาก็ไม่มีความสุข เขารักซาร่าตัวน้อยของเขามากและเขาไม่ต้องการที่จะไม่มีหล่อน. แม่ซาร่าตายและซาร่าเป็นลูกคนเดียวของเขา พ่อและลูกสาวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน.
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงที่โรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงของนางมิชชินและเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ นางมิชชินเป็นผู้หญิงสูงใส่ชุดดำ หล่อนมองดูซาร่าและยิ้มให้เธอเป็นการใหญ่ "เด็กอะไรสวย" หล่อนพูดกับนายครูว์
ซาร่ายืนเงียบและดูนางมิชชิน "ทำไมหล่อนพูดอย่างนั้น???" เธอคิด "ฉันไม่สวย ดังนั้นทำไมหล่อนถึงพูดมัน?" ซาร่าเป็นคนไม่สวยแต่พ่อของเธอรวยและนางมิชชินชอบเด็กผู้หญิงที่พ่อรวย เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโรงเรียน(ดีสำหรับนางมิชชินเช่นกัน)
"ซาร่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี" นายครูว์พูดกับนางมิชชิน "แม่ของเธอเป็นคนฝรั่งเศสดังนั้นเธอพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดี เธอรักการอ่านหนังสือและเธออ่านได้ทุกเวลาแต่เธอต้องการที่จะเล่นกับเด็กผู้หญิงคนอื่นและมีเพื่อนใหม่เช่นกัน"
"แน่นอน" นางมิชชินพูด หล่อนยิ้มให้อีกครั้ง "ซาร่าจะมีความสุขมากที่อยู่ที่นี่นายครูว์"
นายครูว์พักอยู่ในลอนดอนสำหรับสัปดาห์นี้ เขาและซาร่าไปร้านค้าและเขาซื้อของจำนวนมากที่สวยงาม,ชุดราคาแพงสำหรับลูกสาวของเขา.เขาซื้อหนังสือหลายเล่ม,ดอกไม้สำหรับห้องของเธอและตุ๊กตาตัวใหญ่ใส่ชุดสวยเช่นกัน
นางมิชชินยิ้ม,หล่อนพูดกับอาเมร่าน้องสาวของหล่อน: "เงินทั้งหมดซื้อชุดสำหรับเด็ก7ขวบ! หล่อนมองดูเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย เมื่อนายครูว์ใช้ชีวิตในลอนดอน,เขารู้สึกเศร้ามาก. ซาร่ารู้สึกเศร้าเช่นกัน,แต่เธอไม่ร้องให้. เธอนั่งในห้องของเธอและคิดเกี่ยวกับพ่อของเธอบนเรือที่กลับอินเดีย.
"พ่อต้องการฉันถึงจะมีความสุข"เธอพูดกับตุ๊กตาใหม่ของเธอ. ฉันรักเขามากและฉันต้องเป็นลูกสาวที่ดี,ดังนั้นฉันต้องมีความสุข
ตุ๊กตามันใหญ่และสวยมากแต่แน่นอนมันไม่สามารถโต้ตอบได้.
ไม่นานซาร่าก็มีเพื่อนใหม่ในโรงเรียน. เด็กผู้หญิงรวยบางคนเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดี พวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่สำคัญเพราะว่าพวกเขามีเงินและของบางสิ่งที่แพงมากมาย. แต่ซาร่าแตกต่าง. เธอชอบชุดสวยและตุ๊กตา,แต่เธอก็สนใจคนหนังสือและเรื่องเล่า
เธอรู้สึกดีที่ได้เล่าเรื่องราว. เธอเป็นเด็กที่ฉลาดและเด็กผู้หญิงคนอื่นๆชอบที่จะฟังเธอ เรื่องราวทั้งทั้งหมดเกี่ยวกับราชา,ราชินี,และเจ้าหญิงและเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ที่ไกลโพ้นทะเล
"เธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด?" เธอถามเพื่อนที่ดี,เออเมนกาด
"ฉันมีแต่รูปพวกนี้ทั้งหมดอยู่ในหัวใจของฉัน" ซาร่าพูด , "ดังนั้นมันง่ายต่อการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพวกมัน"เออเมนกาดเป็นคนยากจนไม่ฉลาด.เธอไม่เคยจำบทเรียนของเธอได้และนางมิชชินโกรธเธอเป็นประจำซาร่าช่วยเหลือเออเมนกาดบ่อยครั้งเกี่ยวกับบทเรียนของเธอ. "ฟัง,เออเมน" เธอพูด "เธอจำพระราชาฝรั่งเศส ,หลุยส์ ที่16ได้ไหม? เยี่ยม,นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับเขา. วันหนึ่งในปี 1792....."
เออเมนกาดได้เรียนรู้บทเรียนของเธอผ่านเรื่องราวของซาร่า,และเธอรักเพื่อนของเธอมาก แต่ไม่ทุกคนที่เป็นเพื่อนของซาร่า. ลาวิเนียเป็นเด็กผู้หญิงอายุมากมาก่อนซาร่า,ลาวิเนียเป็นคนที่รวยที่สุดและเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสำคัญในโรงเรียน.แต่พ่อของซาร่าก็เป็นคนรวยเช่นเดียวกับพ่อของลาวิเนีย. ดังนั้นในตอนนี้ซาร่าก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับลาวิเนียและลาวิเนียไม่ชอบ
"โอ้,ซาร่าฉลาดมาก!"ลาวิเนียพูดบ่อยครั้งซาร่า. "ซาร่าพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีมาก! ชุดของเธอสวยมากและเธอสามรถร้องร้องเพลงได้ดีมาก!และรวยมาก! แน่นอนนางมิชชินชอบเธอที่สุด!"
ซาร่าไม่ตอบเมื่อลาวิเนียพูดถึงสิ่งนั้น บางครั้ง,มันไม่ง่ายแต่ซาร่าเป็นคนใจดี,เป็นเด็กผู้หญิงที่อัธยาศัยดี

บทที่2 #‎เหมืองแร่เพชร

        3ปีต่อมา, พ่อของซาร่าเขียนจดหมายถึงเธอบ่อยครั้งและซาร่าก็เขียนจดหมายแสดงความรักกลับไปหาเขา. วันหนึ่งเขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับจดหมาย ทุกคนในโรงเรียนพูดถึงเกี่ยวกับมัน "เพื่อนของฉัน" เขียนโดยนายครูว์ , มีเหมืองแร่ในอินเดียทางตอนเหนือและเดือนที่ผ่านมาคนงานของเขาพบเพชรที่นั่น มีเพชรหลายพันในเหมืองที่นั่น,แต่มันเป็นงานที่ราคาแพงกว่าจะได้ออกมาเพื่อนของฉันจำเป็นต้องช่วยฉัน. ดังนั้น,"คุณหญิงตัวน้อย (นี่เป็นชื่อพิเศษของนายครูว์สำหรับซาร่า) ฉันกำลังวางเงินทั้งหมดของฉันไปกับเหมืองแร่เพชรของเพื่อนฉันและวันหนึ่งเธอและฉันจะรวยมาก"
ซาร่าไม่ได้สนใจเงินแต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับเหมืองแร่เพชรในอินเดียเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เกือบทุกคนดีใจมากสำหรับซาร่า,แต่ลาวิเนียไม่แน่นอน.
"ฮึ!"เธอพูด "แม่ของฉันมีเพชร คนจำนวนมากมีเพชร. มีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับเหมืองแร่เพชร?
"แต่ที่นั่นมีเพชรหลายพันในเหมือนแร่นั้น" เออเมนกาดพูด "บางทีหลายล้านของพวกเขา!"
ลาวิเนียหัวเราะ"คือซาร่าจะใส่เพชรในผมของเธอตอนอาหารเช้า,แล้ว? คือจะเป็น"เจ้าหญิงซาร่า"
หน้าของซาร่าเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอมองที่ลาวิเนียอย่าโกรธ,แต่เธอพูดอย่างเบาๆ"บางคนเรียกฉันเจ้าหญิง" ฉันรู้แล้ว แต่เจ้าหญิงไม่โกรธหรือพูดสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้นฉันจะไม่พูดสิ่งที่ไม่ดีกับเธอลาวิเนีย
"ถึงฉัน,เธอเป็นเจ้าหญิง"เออเมนกาดพูดกับซาร่า "และเธอก็ดูเหมือนเจ้าหญิงในชุดสวยของเธอ" ซาร่าเป็นเจ้าหญิงสำหรับเด็กคนอื่นเช่นกัน . นี่คือ เบ็คกี เธอเป็นสาวรับใช้ในโรงเรียนนางมิชชินเธอมีอายุเพียง14ปีแต่เธอทำงานทั้งวันและบางครั้งทำงานถึงเที่ยงคืน เธอต้องขนบางสิ่งขึ้นลงบันไดหล่อนทำความสะอาดพื้น,ก่อไฟและเธอเหนื่อยหิวและสกปรกตลอดเวลา. เธอและซาร่ามีชีวิตที่แตกต่างกันมาก
วันหนึ่งซาร่าเข้าไปในห้องนอนของเธอและนั่นเบ็คกีกำลังหลับบนเก้าอี้.
"โอ้ สิ่งของของเธอสภาพไม่ดี!"ซาร่าพูด
แล้วเบ็คกีก็ลืมตาของเธอและเห็นซาร่า. เธอลุกขึ้นในทันที. "โอ้ นาง"เธอพูด "ฉันขอโทษ ฉันเพียงแค่นั่งหลับไม่กี่นาที...."
"ไม่ต้องกลัว" ซาร่าพูด . เธอยิ้มให้เบ็คกีอย่างเป็นมิตร ."เธอเหนื่อย"
"เธอ...เธอจะบอกนางมิชชินไหม?" เบ็คกีถาม เธอเริ่มเดินไปที่ประตู .
"ไม่แน่นอน" ซาร่าพูด "ขอร้องละ ไม่ต้องวิ่งหนี" ไม่กี่นาทีเธอนั่งลงอีกครั้ง เธอดูเหนื่อย"
“โอ้ นาง! เธอเป็นคนใจดี,แต่นางมิชชิน....."
"ได้โปรด "ซาร่าพูด เธอจับมือเบ็คกี . "เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ,เหมือนฉัน เราจะเป็นเพื่อนกัน " ดังนั้นเบ็คกีนั่งลงอีกครั้ง ไม่นานเธอและซาร่าเป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน. เด็กผู้หญิงรวยที่โรงเรียนของนางมิชชินไม่มีใครเป็นเพื่อนกับสาวรับใช้และมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับเบ็คกี. เกือบทุกวันเธอและซาร่าเจอกันในห้องนอนของซาร่า ,เพียงห้าถึงสิบนาที . เบ็คกีหิวเสมอและซาร่ามักจะซื้อของบางสิ่งสำหรับให้หล่อนกิน. พวกเขาจะนั่งคุยกัน บางครั้งซาร่าเล่าเรื่องราวบางอย่างให้เธอฟัง . เบ็คกีรักเธอ
"โอ !นาง" เธอพูด "คุณเล่าพวกเขาอย่าสวยงาม" บางครั้ง ฉันชอบเรื่องราวที่ดีของเธอมากกว่าสิ่งที่จะกิน."
หลังจากไปมาหาสู่ห้องของซาร่า เบ็คกีรู้สึกดีมาก ไม่เหนื่อยและไม่หิว
เดือนต่อมาซาร่ามีวันเกิดครบ11ปีมีการหยุดการเรียนสำหรับช่วงบ่ายและมีงานปาร์ตี้ใหญ่สำหรับเด็กผู้หญิงทั้งหมดในโรงเรียน
"นี่คืองานปาร์ตี้ที่แพงที่สุดสำหรับพวกเรา" นางมิชชินพูดกับอาเมร่าน้องสาวของเธอ "แต่มันดูดีสำหรับโรงเรียน"
        บ่ายวันนั้นมีผู้เข้าชมโรงเรียน ทนายความของนางมิชชิน. เขาไปกับนางมิชชินในสำนักงานของเธอและพวกเขาปิดประตู ในห้องเรียนถัดจากประตูที่นั้นเสียงดังมากจากงานปาร์ตี้ของซาร่า ทุกคนในที่นั้นมีความสุขมาก .
แต่ในสำนักงานนางมิชชินไม่มีความสุข. เธอมองทนายอย่างโกรธ ."เธอพูดว่าอะไรนะ ? นางครูว์ไม่มีเงิน? สิ่งที่เกี่ยวกับเหมืองแร่เพชร?"
"ที่นั้นไม่ม่เพชร" ทนายพูด " ดี, มีเหมืองแร่ แต่ไม่มีเพชร"
"แต่เพื่อนที่ดีของนายครูว์ - นางนิชชิน"
"เพื่อนที่ดีของนายครูว์" ทนายพูด "หนีไปพร้อมกับเงินทั้งหมดของนายครูว์ . ราล์ฟ ครูว์ ไม่สบายเป็นไข้และเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้เขาอาการแย่ลงสัปดาห์ ต่อมาเขาก็ตาย
"ตาย"นางมิชชินร้อง "แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับซาร่าลูกสาวเขา? นี่งานปาร์ตี้วันเกิดราคาแพง? "
"ซาร่าครูว์ ไม่มีเงิน"ทนายความพูด "ไม่มีเงินในโลก? นางมิชชินไม่มีเงิน"
"เธอต้องออกจากโรงเรียนของฉันเดี๋ยวนี้" นางมิชชินพูดอย่างโกรธ "เธอต้องไปบ่ายวันนี้
"ที่ไหน"ทนายความพูด "ออกไปในถนน? เด็กผู้หญิงอายุ11ปี? นั่นจะมองไม่ดีสำหรับโรงเรียนของคุณ?นางมิชชิน"
หน้าของนางมิชชินเปลี่ยนเป็นสีแดง
"เธอไม่สามารถปล่อยหล่อนให้ออกไปถนนได้"ทนายความพูด เขายืนขึ้น "แต่บางทีเธอสามารถช่วยงานคุณได้"
ทนายความฝากไว้,นางมิชชินเรียกอาเมร่าน้องสาวของเธอ"พาซาร่าครูว์มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เธอพูด
2นาทีต่อมา ,ซาร่า ในชุดราตรีสีฟ้าที่สวยของเธอ,ยืนข้างหน้านางมิชชิน
"ซาร่าเธอมีชุดสีดำไหม?, นางมิชชินพูดอย่างเย็นชา
"มีคะ,นางมิชชิน"ซาร่าพูด "แต่มันเล็กมาก"
"ไปและใส่มันเดี๋ยวนี้" นางมิชชินพูด "พ่อของเธอตายแล้ว ที่เหมืองแร่ไม่มีเพชรและเพื่อนของพ่อเธอหนีไปพร้อมกับเงินของเขา เธอไม่เหลืออะไร ไม่มีเงินแต่ฉันจะใจดีกับเธอ เธอสามารถพักในบ้านของฉันได้และในตอนนี้เธอจะต้องเป็นคนรับใช้และทำงานเพื่อแลกเงิน เธอสามารถหลับในห้องคนรับใช้บนบันได,ถัดจากห้องของเบ็คกี

บทที่3 เด็กผู้หญิงรับใช้ใหม่

       ตอนเย็น,ในห้องใต้หลังคาเล็กๆซาร่านั่งบนที่นอนในชุดสีดำเก่าของเธอ เธอไม่ร้องให้,แต่หน้าเธอซีดแล้วเธอนั่งนิ่ง ไม่พูดเป็นชั่วโมง
   คืนต่อมาประตูห้องเปิดออกอย่างช้าๆและเบ็คกีมองเข้าไปข้างใน ตาเธอเป็นสีแดงจากการร้องให้ "โอ้นาง"เธอพูด "สาวใช้ทั้งหมดพูดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันของโทษ ขอโทษ! เธอมองหน้าที่ซีดของซาร่า,และเริ่มร้องให้อีกครั้ง แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหาซาร่าและจับมือของหล่อน

ไม่นานซาร่าก็เริ่มขยับอย่างช้าๆเธอจับมือหล่อนกลับและมองที่เบ็คกี "โอ้เบ็คกี" เธอพูด
คืนแรกในห้องใต้หลังคาที่ยาวนาน ซาร่านอนไม่หลับ "พ่อตาย" เธอพรึมพร่ำครั้งแล้วครั้งเล่า "พ่อฉันตาย ฉันไม่เคยได้เจอเขาอีกครั้ง"

เช้าวันถัดมาซาร่าเริ่มชีวิตใหม่ หล่อนเรียนรู้การทำความสะอาดพื้นและก่อไฟ เธอวิ่งขึ้นบันไดและลงบันไดและเธอทำงานในห้องครัว .

คนทำอาหารเป็นผู้หญิงตัวใหญ่ หน้าโกรธ "นั้น" เธอพูด "เด็กผู้หญิงที่รวยมีเหมืองแร่เพชรแต่ตอนนี้เป็นสาวรับใช้” เธอมองซาร่า "ตอนนี้,ฉันกำลังทำพายแอปเปิลสำหรับตอนเช้า วิ่งลงไปที่ร้านค้าและซื้อแอปเปิล เร็ว!”
ดังนั้น ซาร่าวิ่งไปที่ร้านและถือถุงแอปเปิลใบใหญ่กลับบ้าน แล้วเธอก็ทำความสะอาดพื้นห้องครัวและเธอก็ขนน้ำขึ้นไปส่งที่ห้องนอนทุกห้อง.
เธอทำงานทุกวัน,จากช่วงตอนเช้าถึงตอนกลางคืน. เธอช่วยงานในโรงเรียน ,เช่นกัน
'เธอพูดภาษาฝรั่งเศส ได้ดี' นางมิชชินพูดกับหล่อนอย่างเย็นชา 'ดังนั้นเธอสามารถสอนภาษาฝรั่งเศสให้กับเด็กคนอื่นได้' แต่เธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้อย่าลืม!
ชีวิตใหม่ของซาร่าในเดือนแรกหนักมาก. เธอจะรู้สึกเหนื่อยและหิวเสมอแต่เธอไม่เคยร้องไห้. ตอนกลางคืน,ในห้องใต้หลังคา,เธอคิดเกี่ยวกับพ่อของเธอ, ตายในอินเดีย ทั้งหมดหายไป.

"ฉันต้องกล้าหาญ" เธอพูด "พ่อต้องการฉันที่กล้าหาญ ฉันจะนอนหลับและจะกินทุกวัน มีผู้คนจำนวนมากไม่มีสิ่งนั้น"
เพื่อนเพียงคนเดียวของซาร่าคือเบ็คกี. ทุกๆวัน, เบ็คกีจะเข้ามาในห้องของซาร่า .พวกเขาไม่มีเวลาคุยกันมากแต่มันช่วยให้ซาร่าเห็นความเป็นมิตรของเบ็คกี้มากขึ้น , ใบหน้าที่ยิ้ม
เด็กผู้หญิงในโรงเรียนเสียใจกับซาร่า ,แต่ในตอนนั้นซาร่าเป็นคนรับใช้และพวกเขาไม่ควรจะเป็นมิตรกับสาวรับใช้ . ลาวิเนีย,แน่นอน" ฉันไม่เคยชอบซาร่า ครูว์ " เธอพูดกับเพื่อนของหล่อน "แล้วมันก็ถูกแล้ว เกี่ยวกับเพชรที่จะเป็นแบบนั้น !"

เออเมนกาด ไมมีความสุข เมื่อเห็นซาร่าในโรงเรียน ,ซาร่าเดินผ่านหล่อนและไม่พูดด้วย .เออเมนกาด รักซาร่าและต้องการจะเป็นมิตร,แต่เธอไม่ฉลาด และไม่เข้าใจ
วันหนึ่งตอนเช้า,เธอได้ลุกออกจากที่นอนอย่างเงียบๆขึ้นบันไดไปห้องใต้หลังคาและเปิดประตูห้องของซาร่า .
"เออเมนกาด!" ซาร่าพูด "เธอมาทำอะไรที่นี้?" เออเมนกาดเริ่มร้องไห้ "โอ้ !ซาร่า ได้โปรดพูดกับฉัน. เธอเป็นอะไร? ทำไมตอนนี้เธอไม่ชอบฉัน?
"ฉันไม่ใช่ไม่ชอบเธอ" ซาร่าพูด "แน่นอนฉันทำ แต่เธอก็เห็น,ในตอนนี้มันแตกต่างกัน นางมิชชินไม่ต้องการให้ฉันผู้กับเด็กผู้หญิงคนอื่น ส่วนมากพวกเขาไม่ต้องการพูดกับฉัน และฉันก็คิดว่า บางทีเธอไม่ต้องการ....."
"แต่ฉันเพื่อนเธอ" เออเมนการ้องไห้ "ฉันจะเป็นเพื่อนเธอตลอดไป และไม่มีใครห้ามฉันได้"
ซาร่าจับมือของเออเมนกาด . ทันใดนั้นเธอรู้สึกมีความสุข .บางทีเธอร้องไห้เช่นกัน .
มีเก้าอี้เพียงตัวเดียว , ดังนั้น ทั้งสองนั่งลงบนเตียง มองไปรอบๆห้องใต้หลังคา "โอ้ ซาร่า เธอสามารถอยู่ในห้องนี้ได้ ?มันชั่งเย็นและสกปรก
" มันไม่ ดีเลย" ซาร่าพูด "ที่นั้นห้องถัดไปเป็นของเบ็คกี" เธอเดินไปที่โต๊ะใต้หน้าต่าง,แล้วเธอและเออเมนกาด ยืนขึ้นบนโต๊ะและมองออกไปรอบหน้าต่าง,เหนือหลังคาของบ้าน . ในกล่องของซาร่ามีขนมปังชิ้นเล็กบางส่วน เธอวางบนมือของเธอแล้วยืนออกไปนอกหน้าต่าง "ดู" ซาร่าพูด
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมีนกบินลงมาบนมือของซาร่าและเริ่มกินขนมปัง .แล้วนกตัวที่สอง,สามและสี่.
" โอ้ ซาร่า ชั่งมหัศจรรย์ "เออเมนกาดพูด
"พวกเขารู้ ฉันเป็นเพื่อนพวกเขา "ซาร่าพูด "ดังนั้นมันไม่กลัว, บางทีพวกมันเข้ามาในห้องของฉันเช่นกัน,
เออเมนกาดมองข้ามหลังคาไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาถัดไป " ใครอาศัยอยู่บ้านนั้น? เธอถาม
"ไม่มีใคร"ซาร่าพูดอย่างเศร้าใจ 'ดังนั้น ฉันไม่เคยเห็นใครที่หน้าต่าง ฉันสามารถพูดเพียงกับนก "
แต่ในคืนหนึ่ง , 2-3 สัปดาห์ต่อมา , เบ็คกีเข้ามาในห้องของซาร่า. เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
"โอ้ นาง! มีสุภาพบุรุษชาวอินเดียกำลังย้ายเข้าไปบ้านถัดไป. เยี่ยม,เขาเป็นคนอังกฤษแต่เขาอาศัยในอินเดียมาหลายปีและในตอนนี้เขากำลังจะมาอยู่ถัดไป . เขารวยมาก เขาไม่สบาย มีบางสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา , แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร"
ซาร่าหัวเราะ "คุณรู้ทั้งหมดได้อย่างไร? เธอถาม
"เธอรู้จักครอบครัวคาร์ไมเคิลข้ามถนน? เบ็คกีพูด "ฉันเป็นเพื่อนกับสาวใช้ในครัวและหล่อนเราให้ฉันฟัง นายคาร์ไมเคิลเป็นทนายความสุภาพบุรุษชาวอินเดีย ดังนั้นพวกเราจึงรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับเขา .

‪บทที่4 แรม แดสและลิง


      ทุกตอนเช้า , เมื่อซาร่าให้ขนมปังกับพวกนก,เธอมองข้ามไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาประตูถัดไป แต่ไม่มีใครเปิดมัน. ไม่มีใครเรียก 'สวัสดีตอนเช้า ! ข้ามหลังคา หรือยิ้มให้ซาร่าอย่างเป็นมิตร.
บางที สุภาพบุรุษชาวอินเดีย คนรับใช้ทั่งหมดนอนอยู่ชั้นล่าง' เธอคิดอย่างเศร้าใจ .

ชีวิตของเธอรู้สึกเหงามากในตอนนี้ หล่อนเห็นเบ็คกีทุกวัน,แน่นอน พวกเขาไม่มีเวลามากสำหรับการพูดคุย . คนทำอาหารและสาวใช้คนอื่นๆไม่เป็นมิตรด้วย. บางครั้งในตอนกลางคืน เออเมนกาดเขามาในห้องของซาร่าแต่มันไม่ง่ายสำหรับหล่อนที่จะขึ้นมาบ่อยครั้ง.

วันหนึ่งในตอนเย็น,ซาร่าอยู่ในห้องใต้หลังคาของเธอเมื่อหล่อนได้ยินเสียงดังบนหลังคา เธอมองขึ้นไปและที่หน้าต่างเปิดมีลิงตัวเล็กอยู่
" โอ้ ที่รัก "ซาร่าร้อง ในทันที ลิงกระโดดลงมาและเริ่มวิ่งไปรอบห้อง. ซาร่าหัวเราะ เธอขึ้นไปบนโต๊ะ และมองออกไปที่หน้าตา ,ถัดไปที่หน้าต่าง เธอเห็นหน้า-หน้าที่กำลังยิ้มของแขกชาวอินเดีย
"โอ้! ซาร่าร้อง "ลิงของคุณ เขาอยู่ในห้องของฉัน"
แขกชื่อ แรม แดส และใช่ , มันคือลิงของเขา . เขายิ้มให้ซาร่า
"ฉันขอโทษ" เขาพูด "ฉันสามรถเข้าไปพาเขามาได้ไหม?
"โอ้ แน่นอน,ขอร้องละ "ฉันคิดว่าเขากลัวฉันและเขาก็วิ่งเร็ว! แต่คุณจะสามารถข้ามหลังคามายังไง?
ใช่,แรม แดสสามารถ และไม่กี่หน้าทีต่อมา เขาอยู่ในห้องของซาร่า. ทันที ลิงก็กระโดดมาบทแขนของเขา, แรม แดส ขอบคุณซาร่าอีกครั้ง แล้วเขาก็ข้ามหลังคาจากไป กลับไปบ้านถัดไป ซาร่าเดินไปร้านค้า ห้าถึงหกครั้งต่อวันและเมื่อหล่อนเดินผ่านบ้านหลังถัดไป หล่อนมักจะนึกถึงสุภาพบุรุษ เธอรู้สึกเศร้าใจสำหรับเขา. เขาไม่มีภรรยาหรือครอบครัวและมีหมอมาที่บ้านของเขาทุกวัน. ทนายความของนายคาร์ไมเคิลมักจะมาบ่อยเช่นกันและบางครั้งลูกของคาร์ไมเคิลกลับไปกลับเขา
ซาร่าพอใจกับเรื่องนี้ “มันเป็นเรื่องที่ดีที่เห็นใบหน้าที่เป็นมิตรเมื่อเธอป่วย ” เธอคิด
สุภาพบุรุษชาวอินเดีย คิดแบบนั้นเช่นกัน เขาชอบเด็กพวกนั้นมาก แต่เขาก็ดูเป็นผู้ชายที่ไม่มีความสุขนายคาร์ไมเคิลเป็นเพื่อนของเขา เขาพูดกันเยอะมากแต่เขาพูดกันเพียงสิ่งเดียว
“ฉันต้องหาเด็ก” เขาพูดกับสุภาพบุรุษชาวอินเดีย (เขาชื่อ คาร์ริชฟอร์ด) “ฉันต้องหาหล่อนและดูแลหล่อน แต่หล่อนอยู่ที่ไหน? ที่ฉัน, ซึ่งเงินทั้งหมดจากเหมืองแร่เพชรและครึ่งหนึ่งมันคือเงินของ ราฟล์ ครูว์ โอ้! คาร์ไมเคิล, ทำไมฉันทอดทิ้งเพื่อนของฉันและหนีออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ไมดี ทำไม? ”
“เธอหนีออกมา เพราะ เธอป่วยไม่สบาย” นายคาร์ไมเคิลพูด “มันไม่ฆ่าคุณทั้งหมด จำได้ไหม? ”
“และมันไม่ฆ่า ราฟล์ ที่ยากจน” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด “เขาลงทุนเงินทั้งหมดของเขาไปกับการทำเหมืองแร่ เพราะ ฉันเป็นเพื่อนของเขา แต่ที่แรกพวกเราไม่เจอเพชรและเงินทั้งหมดของราฟล์หมดไป ฉันกลัวที่จะบอกเขา, ดังนั้นฉันจึงหนีออกมาและหลังจากนั้นเมื่อพวกเราเจอเพชร,ราฟล์ก็ตาย”
“มันไม่ง่ายที่จะกล้าเผชิญ” นายคาร์ไมเคิลพูดอย่างเงียบๆ, เมื่อเขาป่วยไม่สบาย”นายคาร์ริชฟอร์ดมองไปยังกองไฟ “แรม แดส พูดกับฉัน” เขาพูด “เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนรับใช้ ประตูถัดไป ลิงวิ่งหนีออกไป, และแรม แดสข้ามหลังคาไปพาลิงของเขากลับจากห้องของเธอ เด็กยากจนนอนหลับในที่อากาศเย็น, ห้องใต้หลังคาสกปรกและทำงาน 16 ชั่วโมงต่อวัน ลูกสาวของราฟล์ อยู่ที่ไหน? ฉันไม่สามารถหยุดความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”
“พวกเราจะไปหาหล่อนในวันหนึ่ง” นายคาร์ไมเคิลพูด
“แต่ไปยังไง? ” คาร์ริชฟอร์ดพูด .เขาวางมือของเขาบนมือเขา “ฉันไม่เคยหล่อน ฉันไม่รู้ชื่อหล่อน! ราฟล์ เรียกหล่อนเสมอว่า “นางน้อย” พวกเราพูดตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เหมือง. เขาไม่เคยพูดชื่อโรงเรียนของหล่อน. แม่ของหล่อนเป็นคนฝรั่งเศส , ดังนั้นเขาไปโรงเรียนของหล่อนในฝรั่งเศส? หรือในอังกฤษ?
ดี พวกเรารู้จักเด็กที่โรงเรียนในปารีส, คาร์ไมเคิลพูด “ซึ่งชื่อของคาร์หรือครูล์ , พ่อของหล่อนตายในทันทีและครอบครัวรูซเชิลพาหล่อนหนีพวกเขาเพราะเป็นเพื่อนของลูกสาวเขา,บางทีเด็กผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวของราฟล์ ครูว์” สัปดาห์ถัดไปฉันจะไปกรุงมอสโคว์เพื่อหาหล่อน” “ฉันจะไปหาเธอ, แต่ฉันไม่ดี” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด “ฉันต้องหาหล่อน,คาร์ไมเคิล ฉันต้องทำ ทุกๆ คืน,ในความฝัน,ฉันเห็นหน้าของราฟล์ ครูว์และเขาก็พูดว่า: ทอม ทอม นางน้อยอยู่ที่ไหน? ฉันไม่มีคำตอบให้เขา” นายคาร์ริชฟอร์ดจับมือเพื่อนของเขา “ช่วยฉันหาหล่อน ช่วยฉัน” ฤดูหนาวในช่วงสั้น,ค่ำคืนหนึ่ง ห้องใต้หลังคาอากาศเย็นมาก. ที่นั้นไม่มีไฟสำหรับเด็กหญิงรับใช้และบ่อยครั้งซาร่าและเบ็คกีไม่สามารถนอนได้เพราะอากาศเย็น. ซาร่าเป็นคนตัวสูงและชุดสีดำเก่าของหล่อนสั้นมาก. รองเท้าของเธอเก่าและเธอไม่มีชุดที่อบอุ่นสำหรับอากาศที่หนาว. เธอเป็นคนผอมเช่นกัน. เธอไม่มีอะไรมากสำหรับการกินและหล่อนหิวเป็นประจำ
เธอถือตะกร้าใบใหญ่ไปร้านค้าผ่านฝนและหิมะ วันหนึ่งเธอพบเงินในหิมะและเธอซื้อขนมปังใหม่ด้วยเงินนั้น. แล้วเธอเห็นเด็กนั่งอยู่ที่ประตูของร้านค้า . เด็กคนนั้นไม่มีรองเท้า ไม่มีเสื้อและหน้าของเป็นสีน้ำเงินจากอากาศที่เย็น.
“เธอหิวแล้วฉันละ” ซาร่าคิด และหล่อนก็ให้ขนมปังชิ้นใหม่ที่ร้อนกับเด็กคนนั้น.
เมื่อหล่อนกลับถึงโรงเรียน,นางมิชชินโกรธ “คนทำอาหารรอเธออยู่ ซาร่า . ทำไมเธอถึงสาย?”
“ฉันไม่สามารถเดินเร็วได้ ในช่วงฤดูหนาว” ซาร่าพูด “รองเท้าของฉันเก่า ,นางมินชินและฉันรู้สึกเย็น”
นางมิชชินไม่ชอบที่ได้ยินแบบนั้น “หยุดพูดกับฉันแบบนี้นะ” “ฉันใจดีกับเธอ ฉันให้บ้านนเธอ แต่เธอไม่เคย “ขอบคุณ” กับฉัน”ซาร่ามองที่หล่อน “เธอไม่ได้ใจดีและนี่ไม่ใช่บ้าน” หล่อนพูดอย่างรวดเร็ว
“ไปห้องของเธอเดี๋ยวนี้ ” นางมิชชินพูด
บนบันได้ ซาร่าเจอลาวิเนีย. ลาวิเนียมองมาที่หล่อนและหัวเราะเล็กน้อย “โอ้ นี่คือเจ้าหญิงซาร่า, ชุดหล่อนเก่าและสั้นสกปรก!”
ในห้องใต้หลังคา ซาร่านั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะของเธอ.
“ฉันต้องกล้าหาญ” เธอพรึ่มพร่ำ “เจ้าหญิงเป็นคนที่กล้าหาญ, ฉันต้องทำได้เช่นกัน. แต่มันไม่ง่ายเลย” เธอเอาหัวของเธอวางบนแขน “โอ้ พ่อ,จำ “นางน้อย” ได้ไหม? เธอเห็นฉันไหม? ”
ในบ้านหลังถัดไป นายคาร์ริชฟอร์ดนั่งพิงไฟ. กรุงมอสโคว์มีอากาศหนาวเย็นนานกว่าลอนดอน. เขาเพียงรอเวลา, แต่เขานึกถึงเกี่ยวกับลูกของราฟล์ ครูว์ ทุกวัน. เขานึกถึงเกี่ยวกับเด็กคนอื่นๆเช่นกัน.
“แรม แดส” เขาพูด “ทำอย่างไรกับเด็กหญิงรับใช้ที่ยากจนประตูถัดไป? เราสามารถทำอะไรบางสิ่งบางอย่างกับเธอ?”
“ฉันเห็นเธอที่ถนนทุกวัน” แรม แดส พูด “ในเวลาที่มีฝน, หิมะ. หล่อนดูผอมและหิว แต่พวกเราสามารถช่วยหล่อนได้ ฉันสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายผ่านหน้าต่างห้องใต้หลังคาของเธอ . ฟัง… และเขาก็พูดไม่กี่นาที” นายคาร์ริชฟอร์ดยิ้ม “ใช่” เขาพูดกับ แรม แดส. “ใช่ ฉันคิดเหมือนกัน”

บทที่ 5 ความมหัศจรรย์


คืนหนึ่ง,ในสัปดาห์ต่อมา,เออเมนกาดลุกออกจากที่นอนอย่างเงียบๆขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา. ซาร่าไม่อยู่ที่นี้ , ดังนั้นเออเมนกาดนั่งบนเตียงและรอ. 10 นาฬิกา ซาร่าขึ้นบันไดมาอย่างช้าๆและเขาไปในห้อง
เออเมนกาดมองมาที่หล่อน “โอ้ ซาร่า!” เธอร้อง “เธอไม่สบาย? หน้าเธอซีด?และเธอดูเหนื่อย!”
“มันเป็นวันที่หนัก, เออเมน” ซาร่าพูด เธอนั่งลง. “นางมิชชินโกรธกับการทำอาหาร.แล้วคนทำอาหารก็โกรธพวกเรา. เบ็คกีและฉันไม่มีอาหารเย็นและน้ำชา”
“เกิดขึ้นบ่อยไหม?”เออเมนกาดที่ไม่มีความสุขพูด. “เธอไม่เคยบอกฉัน. เธอ-เธอหิวไหมในตอนนี้? ” ซาร่ามองไปที่หล่อน “ใช่” หล่อนกระซิบ “ใช่, ฉันจะกินของที่อยู่บนโต๊ะ ฉันอยากกิน, คุณ”
เออเมนกาด กระโดดขึ้น “ซาร่า” เธอร้อง “ฉันมีกล่องบางสิ่งที่ได้มาจากบ้านวันนี้. มีเค้กชิ้นใหญ่อยู่ในกล่องนั้น.ฉันจะให้กินมันในตอนนี้. เธอและเบ็คกีสามารถกินได้ทั้งหมด!”
ไม่นาน,เออเมนกาดอยู่ข้างหลัง. เด็กทั้งสามคนนั่งอยู่บนเตียงของซาร่า,และที่นั้นมีรอยยิ้ม มีความสุขเมื่อเออเมนกาดเปิดกล่องของหล่อนและหยิบมันออกมา.
“โอ้ นาง,ดูนั้น” เบ็คกีพูด.
“เธอเป็นใจดี ล เออเมน” ซาร่าพูด . หล่อนหัวเราะ “มันมหัศจรรย์,เธอรู้ เมื่อบางสิ่งเลวร้าย,บางอย่างมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้นเสมอ.ที่มีพวกเรา,มีปาร์ตี้”
เออเมนกาดให้เค้กซาร่าและเบ็คกีและพวกเราก็เริ่มกิน. ทันใดนั้น,พวกเราหยุด มีเสียงเท้าขึ้นบันได. พวกเขาฟัง.
“โอ้ ไม่!” เบ็คกีกระซิบ. “มัน-มันคือนางมิชชิน!”
“ใช่” ซาร่าพูด หน้าของหล่อนซีดอีกครั้ง.
แล้วประตูก็ถูกเปิดออกและนางมิชชินก็เข้ามา”---------” เธอพูดอย่างโกรธ. “------เจ้าหญิงซาร่า,เบ็คกี กลับห้องใต้หลังคาของเธอเดี๋ยวนี้!
“โอ้ ได้โปรด, นางมิชชิน!” เออเมนกาดร้อง. มันเป็นเค้กของฉัน,จากบ้าน. พวกเราเพียงแค่สังสรรค์”
“กลับไปห้องของเธอ,เออเมนกาด” นางมิชชินพูดอย่างเย็นชา สิ่งเหล่านี้กับคุณและวันพรุ่งนี้'-เธอดูที่ ซาร่า -'ที่นั้นไม่มีอาหารเช้า, ไม่มีอาหารเย็น, และไม่มีชาสำหรับคุณจงจำไว้!
ในไม่ช้าห้องใต้หลังคาเงียบอีกครั้ง .เหนื่อย และหิว เด็กผู้หญิงคนรับใช้สองคนนอนไม่หลับ แต่หลังจากชั่วโมง ซาร่าก็ลืมตา.มันมีเสียงดังมาจากหน้าตา บางที?
“มีบางสิ่งที่แปลก” ซาร่ากระซิบ “มันคืออะไร?” เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงและมองไปรอบๆห้อง เธอมองครั้งแล้วครั้งเล่า และตาของหล่อนก็ใหญ่
ห้องพักที่แตกต่างกัน - แตกต่างกันมาก มีไฟร้อนที่มหัศจรรย์.มีใหม่, ผ้าห่มที่อบอุ่นบนเตียงของเธอและภาพที่สวยงามบนผนัง.
ซาร่าลุกจากเตียงอย่างช้าๆ.”มันคือความฝัน?” เธอพูด. “สิ่งเหล่านี้มาจากไหน?” เธอเอามือของเธอออกจากองไป. “ไม่ .มันไม่ใช่ความฝัน. ไฟมันร้อน ฉันรู้สึกโอ้! ดูบนโต๊ะ!”
มีเสื้อสีแดงบนโต๊ะ ,ถ้วยและจาน. มีชาร้อนและของกินที่ยอดเยี่ยม-พายเนื้อร้อน,แซนวิซ ,เค้ก,ส้มและแอปเปิล.
ซาร่าวิ่งไปที่ห้องของเบ็คกี “เบ็คกี” เธอกระซิบ “มานี่ เร็ว” สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นที่นี้.
เมื่อเบ็คกีเห็นห้อง,เธอไม่สามารถพูดได้ในตอนแรก แล้วหล่อนก็พูดว่า”โอ้!นาง! มันคืออะไร ทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? ”
“ฉันไม่รู้”ซาร่าพูด “มันมหัศจรรย์” ทีแรกฉันคิดว่ามันเป็นความฝัน,แต่มันไม่ใช่ ดู- นั้นพายที่ร้อน พายเนื้อมันไม่ใช่ความฝัน!”
พวกเขานั่งลงข้างไฟ,กินและดื่ม.
“โอ้ , พายอย่างดี ” เบ็คกีพูด “ชาและเค้ก” “ฉันไม่เข้าใจ มหัศจรรย์, แต่ฉันชอบมัน”
ซาร่ามองไปรอบห้อง.”โอ้ เบ็คกี้,ดู มีหนังสือบางเล่ม. ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
ซาร่าวิ่งไปที่พวกมันและเปิดหนังสือเล่มบนสุด มันเขียนบางอย่างที่นี้! ฟัง มันเขียนว่า”ถึงเด็กผู้หญิงตัวน้อยในห้องใต้หลังคา จากเพื่อน” โอ้ เบ็คกี! ซาร่าปิดหนังสือและเงยหน้าขึ้น “ฉันมีเพื่อน,เบ็คกี” เธอพูดช้าๆ “ใครบางคนเป็นเพื่อนของฉัน”
เช้าวันถัดมาเบ็คกีเจอซาร่าในห้องครัว.
“โอ้! เธอกระซิบ” “สิ่งมัศจรรย์ที่นั้นมีในตอนเช้าไหม ? หรือมันหายไปเมื่อคืน ”
“ไม่ มันยังคงอยู่ที่นั้น,” ซาร่ากระซิบกลับ “ฉันกินพายเนื้อที่เย็นเป็นอาหารเช้า.และไปก็ยังอุ่น! ”
เบ็คกียิ้มอย่างมีความสุข. นางมิชชินไม่เข้าใจมัน เมื่อซาร่าเข้าไปในห้องเรียน,เธอดูมีความสุขและสบายใจ นางต้องการเห็นหน้าซีด ,ไม่มีความสุขและตาแดงจากการร้องไห้. “ทำอย่างไรเด็กสามารถยิ้มได้” เธอคิดอย่างโกรธ . แต่แน่นอน,หล่อนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องมหัศจรรย์
สิ่งมหัศจรรย์ไม่หายไปไหน ทุกตอนเย็น,เมื่อซาร่าขึ้นไปบนที่นอน,เธอพบสิ่งใหม่ในห้องใต้หลังคา.มีผ้าห่มสำหรับเธอและเบ็คกี. มีภาพบนกำแพง,มีหนังสือหลายเล่ม,มีรองเท้าใหม่และเสื้อกันหนาว ทั้งหมดดี,มีกองไฟเสมอและอาหารค่ำที่ร้อนบนโต๊ะ.
“แต่ทั้งหมดนี่มาจากไหน?” เบ็คกีกล่าวในคืนหนึ่งเมื่อพวกเขานั่งที่ไฟ “มันคือใคร”
“ไม่มีเพื่อน” ซาร่าพูด “ใจดี,เพื่อนมหัศจรรย์ แต่เขาไม่ต้องการให้พวกเรารู้ชื่อเขา”
พวกเราเริ่มดูที่หนังสือเล่มใหม่เล่มหนึ่งแล้วเบ็คกีเงยหน้าขึ้น.
“โอ้ นาง”เธอกระซิบ “มีบางสิ่งที่หน้าต่าง มันคืออะไร?”
ซาร่าลุกขึ้นมอง “มันคือลิง!” เธอพูด “ลิงจากบ้านหลังถัดไป ” เธอเปิดหน้าต่างและลิงกระโดดลงมาบนแขนของเธอ.
เบ็คกีสนใจมาก “ฉันไม่เคยเห็นลิงมาก่อน” เธอพูด “เขาไม่สวยงามมาก เธอจะทำอะไรกับเขา ? ”
“มันสายมาในตอนนี้ เขาพักในห้องของฉันได้และฉันสามารถให้เขากลับบ้านได้ในตอนเช้า” ซาร่าพูด

บทที่ 6 หายและค้นพบ

      เช้าวันถัดมา,คนแรกที่มาถึงบ้านหลังถัดไปคือนายคาร์ไมเคิล,กลับมาจากรัสเซีย แต่เมื่อเขาเข้าไปในบ้าน หน้าเขาเศร้า. นายคาร์ริชฟอร์ดรู้คำตอบทันที
“เธอไม่พบหล่อน” เขาพูด
“ผมพบหล่อน”นายคาร์ไมเคิลพูด “แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ หล่อนชื่อ เอมิลี่ คาริว,หล่อนอายุน้อยกว่าลูกสาวของราฟล์ ครูว์ ฉันเสียใจ”
“พวกเราต้องเริ่มอีกครั้ง” นายคาร์ริชฟอร์ดพูดอย่างไม่มีความสุข. “แต่ที่ไหน? ตอนนี้ 2 ปี แล้ว 2 ปี”
“ดี ! หล่อนไม่ได้เรียนโรงเรียนในปาริส, เรารู้ว่า..” นายคาร์ไมเคิลพูด “หาโรงเรียนอังกฤษ ตอนนี้”
“ใช่ , พวกเราจะเริ่มหาในลอนดอน. มีโงเรียนถัดไป,คาร์ไมเคิล”
บางทีมันจะมหัศจรรย์อีกครั้ง แต่ที่ลงความเห็น แรม แดสเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ.
“เด็กหญิงตัวน้อยจากห้องใต้หลังคาอยู่ที่นี้” เขาพูดกับนายคาร์ริชฟอร์ด “ลิง,เขาไปวิ่งในห้องหล่อนเมื่อคืน คุณจะเห็นหน้าหล่อน?”
“ใช่ ฉันพาหล่อนมา”
ซาร่าเข้ามาในห้องและยืนข้างหน้าของสุภาพบุรุษชาวอินเดีย. เธอยิ้มให้เขา
“ลิงของคุณเข้ามาในห้องของฉันเมื่อคืนและฉันก็พาเขาเข้าไปข้างในเพราะมันเย็น” นายคาร์ริชฟอร์ดดูหน้าหล่อนอย่างสนใจ
ซาร่ามองแรม แดสที่อยู่ที่ประตู ”จะให้ฉันไปที่แขกไหม?” ซาร่าถาม
“เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นแขก” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด.
“โอ้ ฉันรู้” ซาร่าพูด “ฉันเกิดในอินเดีย” นายคาร์ริชฟอร์ดยืนขึ้นทันที. ในอินเดีย? เขาถาม.
“แต่เธอเป็นคนรับใช้ที่โรงเรียนถัดไป”
“ใช่, ในตอนนี้ฉันเป็น แต่ฉันเป็นที่แรก” ซาร่าพูด
สุภาพบุรุษมองที่คารไมเคิลและแล้วนางคาร์ไมเคิลมองที่ซาร่า.
“หมายความว่าอย่างไรที่แรก?” เขาถาม
“เมื่อครั้งแรกพ่อพาฉันมาที่โรงเรียน”
“พ่อเธออยู่ที่ไหน? ” เขาถาม
“เขาตายแล้ว” ซาร่าพูดอย่างเงียบๆ “เพื่อนเขาหนีไปพร้อมเงินทั้งหมดของเขา, ไม่มีเงินสำหรับฉัน. ไม่มีใครดูแลฉัน,ดังนั้น นางมิชชินพาฉันไปอยู่ห้องใต้หลังคาและฉันต้องทำงานเพื่อขนมปังของฉัน”
สุภาพบุรุษชาวอินเดียเดินไปที่เก้าอี้ “อะไร- พ่อของเธอชื่ออะไร?”เขาถาม “บอกฉัน”
ซาร่ามองที่เขาอย่างเศร้าๆ “ราฟล์ ครูว์” เธอพูด
“เขาตายในอินเดียจากการป่วย,2 ปีที่แล้ว”
นายคาร์ริชฟอร์ดหน้าซีดมาก “คาร์ไมเคิล” เขากระซิบ “มันคือลูก –ลูก!”
วันที่หน้าตื่นเต้นสำหรับใครหลายคน ที่เด็กยากจน ซาร่าไม่เข้าใจ. แต่นายคาร์ไมเคิล พูดถึงหล่อนอย่างช้าๆและบอกทุกสิ่งกับหล่อน- เรื่อราวความจริงที่เกี่ยวกับเพื่อนของพ่อของเธอ,เหมืองแร่เพชรและสองปีของการหาลูกสาวราฟล์ ครูว์.
“ตลอดเวลา” เธอพูดกับคาร์ริชฟอร์ดเมือ่พวกเขานั่งที่ไฟ “ฉันอาศัยอยู่บ้านหลังถัดไป”
ทอม คาร์ริชฟอร์ดจับมือหล่อน “ใช่,เธอจะไมกลับไปที่นั้น บ้านเธออยู่ที่นี่ ฉันจะดูแลเธอ นางน้อยของราฟล์ ”
ซาร่าหัวเราะอย่างมีความสุข “และคุณเป็นเพื่อน เช่นกัน” สิ่งที่สวยงามทั้งหมดที่ห้องใต้หลังคามาจากคุณ คุณ- แรม แดส. เบ็คกีและฉันคิดว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์!
สุภาพบุรุษอินเดียยิ้มให้เธอ “พวกเราขอโทษ เธอ” “”แรม แดส ทำอย่างเงียบๆ เขาข้ามหลังคาไปเมื่อหล่อนออกจากห้อง.
ฉันไม่สามารถหาลูกสาวของร่ฟล์ ครูว์ได้ แต่ฉันต้องการช่วยเหลือบางคน และแรม แดส พูดกับฉันเกี่ยวกับสิ่งนี้อย่างเศร้า,เด็กหญิงรับใช้ตัวน้อยโดดเดียวในห้องใต้หลังคา
และเพื่อให้เรื่องจบอย่างมีความสุขสำหรับทุกคน-แต่ไม่สำหรับนางมิชชิน. ซาร่าเป็นคนรวยในตอนนี้,นางมิชชินต้องการหล่อนกลับไปโรงเรียน.เธอมาเห็นนายคาร์ริชฟอร์ด,แต่เขาพูดบางสิ่งถึงหล่อนอย่างโกรธและหล่อนวิ่งหนีไปหน้าแดง
เบ็คกีเขามาอาศัยในบ้านของนายคาร์ริชฟอร์ดเช่นกัน เธอเป็นคนรับใช้ของซาร่าและเธอมีความสุขมาก. เธอมีห้องที่อบอุ่น,ชุดที่ดีและมีของกินที่ดีทุกๆวัน.เธอรักซาร่ามาก
เออร์เมนการ์ดมักจะมาเยี่ยมซาร่าและซาร่าช่วยบทเรียนที่โรงเรียนของหล่อนอีกครั้ง.เออเมนกาดไม่ได้ฉลาด แต่เธอก็เป็นเพื่อนแท้. วันแรกในบ้านของสุภาพบุรุษชาวอินเดีย,ซาร่าเขียนจดหมายถึงเธอและ เออเมนกาดร้องที่เห็นจดหมายเข้าในห้องเรียน.
'มีเพชรที่เหมือง' เธอบอกลาวิเนียและเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ 'มี! มีนับล้านและล้านของเพชรในเหมืองและครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นของซาร่าและพวกเขามีเพชรของเธอตลอดเวลาเมื่อเธอหนาวและหิวในห้องใต้หลังคา เธอเป็นเจ้าหญิงและเธอเป็นเจ้าหญิงในขณะนี้! '' '





Learning Log 12 การเรียนรู้นอกชั้นเรียน (ภาคบ่าย) 30 ตุลาคม 2558

Learning Log
การเรียนรู้นอกชั้นเรียน
การอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ .ในภาคบ่ายของวันที่ 30 ตุลาคม 2558 
ผศ.ดร. ศิตา ได้จัดกิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เช้าร่วมการอบรมได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมนั้นเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ใช้ในการเรียนการสอนได้  โดยมีกิจกรรม 2 กิจกรรม ประกอบไปด้วย การเรียนการสอนโดยใช้เพลงและให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติซ้ำๆหลายๆ ครั้ง   จะมีกระบวนการขั้นตอนดังต่อไปนี้  คือให้ผู้เรียนฟังเพลงที่มีชื่อว่า Tick Tack Toe โดยอาจารย์เป็นผู้ร้องนำ  หลังจากนั้นอาจารย์ให้จับคู่และร้องเพลง  Tick Tack Toe  พร้อมทั้งเต้นประกอบท่าทางตามเนื้อเพลง  และจบลงด้วยการ เป่า ยิง ฉุบ กัน ฝ่ายไหนแพ้ต้องไปเข้าแถวต่อหลังผู้ชนะ  และเล่นพร้อมทั้งร้องเพลงแบบนี้ไปเรื่อยๆ  จนกว่าจะเจอผู้ชนะที่สามารถชนะได้ทุกคน  ซึ่งสามารถสรุปกระบวนการนี้ได้ว่า  ครูไม่จำเป็นต้องตอกย้ำหรือร้องเพลงนี้อย่างเดียวให้ผู้เรียนฟังแล้วร้องเพลงตาม  ซึ่งวิธีการนี้หากเนื้อหาของเพลงหรือทำนองของเพลงไม่น่าสนใจ ผู้เรียนก็จะไม่สนใจ  ทำให้ผู้เรียนไม่เกิดการเรียนรู้  ดังนั้นสิ่งที่ครูควรจะทำคือ  สอนร้องเพลงผ่านการฟังหลายๆ  ครั้งพร้อมการเต้นประกออบท่าทางไปพร้อมๆกัน  ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ค้นพบได้ว่าครูผู้สอนไม่ได้บังคับหรือสั่งให้ผู้เรียนร้องเพลงตามเลย แต่เมื่อจบเกมส์สามารถรับรู้ได้เลยว่าผู้เรียนสามารถร้องเพลงได้เกือบทุกคนโดยที่ไม่จำเป็นต้องสอน  แต่ผลที่ได้รับคือผู้เรียนมีความสุขและความสนุกสนานพร้อมเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
                สำหรับการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนสร้างเรื่องราวคนละประโยคโดยเมื่อนำมาเรียบเรียงแล้วจะได้เรื่องราวหนึ่งจะมีกระบวนการขั้นตอนดังต่อไปนี้   ลำดับแรกนั้นอาจารย์นั้นได้แจกลูกบอลทั้งหมด  20 ลูก  ให้ผู้เข้าร่วมอบรม  โดยมีกติกาของการส่งว่าหากเพลงหยุดที่คนใดหรือลูกบอลหยุดใกล้คนใดมากที่สุด  คนนั้นจะต้องนำลูกบอลมาอยู่ที่หน้าห้อง  ซึ่งลูกบอลแต่ละลูกจะมีหมายเลขเขียนกำกับไว้  1- 20 ให้ผู้เข้าร่วมอบรมนั้นยืนตามลำดับหมายเลขของตนเอง  กติกาคือการต่อเรื่องราวไปเรื่อยๆ  คนละ  1  ประโยคเท่านั้นโดยใช้ภาษาอังกฤษ  และคนที่ 20  จะต้องจบการสร้างเรื่องราวครั้งนี้ให้ได้  ซึ่งระหว่างที่แต่ละคนแต่งโยคนั้น  ถ้าหากประโยคใดแต่งผิดไวยกรณ์อาจารย์จะไม่บอกว่าผิด  แต่จะพูดประโยคใหม่ให้เด็กฟังพร้อมทั้งให้พูดตาม  ซึ่งการเรียนรู้โดยวิธินี้นั้นจะทำให้เด็กทุกคนฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรและเราจะต่อเรื่องราวอย่างไร  จะเป็นการจินตนาการไม่มีถูกไม่มีผิด  พร้อมทั้งคนที่นั่งอยู่ในห้องก็จะตั้งใจฟังว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร  ดังนั้นกรับวนการเรียนการสอนแนวนี้เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
                ต่อมาเมื่อได้เรื่องราวแล้วให้นำเรื่องราวมาวาดภาพเป็นการสร้างสรรค์เรื่องราวที่ได้แต่งขึ้นเองจะปรากฏออกมาเป็นภาพให้ได้ดูกันโดยภาพนั้นจะเปรียบเสมือนการสรุปเรื่องราวทั้งหมด  และหลังจากนั้นอาจารย์ให้ทุกๆ  กลุ่มออกมานำเสนอรายงานสรุปผล  3  ประโยค  จากภาพและเรื่องราวทั้งหมดซึ่งจะแต่งเป็นประโยคใหม่จากเรื่องราวเดิมเพื่อสรุปใจความสำคัญของเรื่องนี้  ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบนี้จะทำให้เด็กสามารถเปิดจินตนาการของตนได้อย่างไม่มีขีดจำกัด  ดังนั้นเด็กจะรู้สึกว่า  หากเราทำแล้วไม่ผิดเด็กก็สามารถที่จะแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ที่มีอยู่ในตัวเด็ก  ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนวิธีนี้ก็จะสามารถทำให้ผู้เรียนมีความสุขพร้อมทั้งสนุกสนานและทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

                จากสองกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทั้งกิจกรรม Tic Tac Toe และกิจกรรมการเล่านิทาน ทั้งสองกิจกรรมเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้ ไม่น่าเบื่อ ทั้ง2 กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับตัวดิฉัน ดิฉันชอบกิจกรรมการเล่านิทาน เพราะดิฉันคิดว่า การเล่านิทานสามารถพัฒนาทักษะได้มากกว่า 1 อย่าง ได้ทั้งทักษะการพูด การฟัง เราสามารถฟังเพื่อนได้มากน้อยเพียงใด เป็นต้น  นอกจากทักษะดังกล่าวแล้ว  การเล่านิทานเราสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การสื่อสาร เป็นต้น การเล่านิทานเราสามารถเล่าให้ฟังได้ตั้งแต่ระดับอนุบาล เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวนักเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งสำคัญก็ต้องให้เหมาะสมกับเด็ก วัยและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ให้ตรงกับยุคที่ 21 ซึ่งเน้นผู้เรียรเป็นสำคัญ

Learning Log 12 การเรียนรู้นอกชั้นเรียน (ภาคเช้า) 30 ตุลาคม 2558

Learning Log
การเรียนรู้นอกชั้นเรียน
การอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ .ในภาคเช้าของวันที่ 30 ตุลาคม 2558  ได้มีการบรรยายถึงกลวิธีการเรียนการสอนในภาษาในปัจจุบันโดย  ผศ. ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  ในหัวข้อวิธีการสอนภาษอังกฤษในศตวรรษที่  21  โดยในหัวข้อจะมีประเด็นที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้  การเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีต  การเรียนการสอนในศตวรรษที่  21  กลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน  ซึ่งแนวการสอนจะแบ่งได้  4  ขั้นตอนดังนี้  คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์   แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่แบบบรูณาการเนื้อหาและภาษา

           วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่  21  จะมีแนวการสอนซึ่งสามารถแยกประเภทได้และสามารถแยกประเภทรูปแบบได้ดังนี้ ซึ่งประเภทแรกคือแนวทานการสอน ซึ่งสามารถแบ่งย่อได้  3  ประเภท  คือ  วิธีสอนแบบไวยกรณ์และแปล  วิธีการสอนแบบตรง  วิธีการสอนแบบฟัง-พูด  ประเภทที่  2 คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์     ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้  7 ประเภทคือ  วิธีการสอนแบบเงียบ  วิธีการสอนแบบธรรมชาติ  วิธีการสอนแบบชักชวน  วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง  การเรียนรู้แบบร่วมมือ  การเรียนรู้แบบภาระงาน  การเรียนรู้จากโครงงาน  ประเภทที่  3  คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา  สามารถแบ่งย่อยได้ 2  ประเภท  คือ  แนวการสอนเพื่อการสื่อสาร  แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  ประเภทที่  4    คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่แบบบรูณาการเนื้อหาและภาษา  ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้  2  ประเภท  การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้  การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
                วิธีการสอนแบบไวยกรณ์และแปล  ( The  Grammar – Translation Method )  จะเป็นการไม่เน้นการฟังและการพูด  แต่เน้นการเรียนไวยกรณ์และการแปลเพื่อให้ผ็เรียนสามารถอ่านตำราและวรรณคดีภาษากรีกและภาษาละตินได้  และมีวิธีการสอนแบบนี้ในการสอภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของคำประพันธ์ภาษาต่างปะเทศ  เน้นการท่องจำ  และความถูกต้องในการใช้ภาษา
                วิธีการสอนแบบตรง  ( The  direct  method )  วิธีสอนแบบตรงมีแนวคิดทางภาษา  คือ  ภาษาพูด  ซึ่งการเรียนภาษา  ซึ่งการให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียนนั้น  เพื่อให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น  ควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการที่จะคิดเป็นภาษาที่เรียนด้วย  ดังนั้นการเรียนการสอนภาษาจึงควรใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นตลอดเวลา  และสื่อสารราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง  มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้  เริ่มการสอนแบบระบบเสียงให้ผู้เรียนฝึกเลียนแบบเสียงและแยกเสียงให้ถูกต้อง  แล้วจึงให้ผู้เรียนฝึกฟังความหมายในประโยค  เช่น  ประโยคคำถาม คำตอบบทสนทนาสั้นๆ
                วิธีการสอนแบบฟัง พูด  ( The  audio - lingual method )  เริ่มจาการฟัง-พูด  ซึ่งเป็นพื้นฐานไปสู่การเรียนและการเขียน  ดังนั้นภาษาที่นำมาให้ผู้เรียนเรียน  ควรเป็นภาษาที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันในชีวิตประจำวัน จึงมีการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเจ้าของภาษาด้วย  เริ่มต้นด้วยภาษาพูด  โดยยังไม่ให้ผู้เรียนเห็นรูปแบบของภาษา  ผู้เรียนจะต้องเลียนแบบเสียงของผู้สอน  จนสามารถฟังเข้าใจ  เน้นการท่องจำบทสนทนา   แล้วจึงเริ่มจากฝึกอ่านและเขียน
                วิธีการสอนแบบเงียบ  ( The  Silent  way )  วิธีการสอนนี้มีหลักการที่เน้นความรู้ความเข้าใจเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ให้ผู้เรียนคิดเอง  ผู้สอนจะพูดน้อยที่สุดและเปิดประตูโอกาสให้ผู้เรียนได้พูด  การแก้ไขปัญหาเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้  ผู้สอนเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม  เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดความเข้าใจที่ค้นพบกฎเกณฑ์ทางภาษาด้วยตนเองและจากเพื่อนๆ
                การเรียนรู้แบบภาระงาน  ( Tash -  Based  Learning ) การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน  เป็นการเรียนเรสอนที่ใช้ภาระงาน ( tasks)  เป็นหลัก  โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน  โดยภาระงานที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนต้องเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในการปฏิบัติภาระงานนั้นให้สำเร็จ  ต้องวิเคราะห์  จัดประเภท  จัดลำดับ  และพิจารณาความยากง่ายเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนเป็นภาระงานที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดมุ่งหมาย  และตรงกับความต้องการของผู้เรียน
                การเรียนรู้แบบภาระงาน  ( Project -  Based  Learning )  โครงงาน  คือ งานศึกษาค้นคว้าที่ผู้เรียนทำร่วมกันเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ที่ผู้เรียนต้องการศึกษาแล้วดำเนินการศึกษาค้นคว้าภายในเวลาที่ตกลงกันไว้จนได้ผลตามจุดประสงค์ที่กำหนด  โครงงานเป็นวิธีการสอนให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง  ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  การทำโครงงาต้องเริ่มต้นจากผู้เรียน  เป็นผู้คิด  ลงมือปฏิบัติ  หาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ  กระตุ้น  เช่น  การจัดนิทรรศการ
                แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  จะมีลักษณะคล้ายๆ กับ  Role  play   จะเน้นที่ตัวผู้เรียน  ผู้สอนหรือผู้เรียนเลือกสถานการณ์ที่คิดว่าผู้เรียนจะต้องประสบในการใช้ภาษา  แล้วจังเอาภาษาที่ใช้ในสถานการณ์นั้นมาจัดการสอน  ตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียนและของบทเรียน  เช่น ผู้เรียนที่เรียนภาษาเพื่อจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวก็จะเรียนภาษาในสถานการณ์ที่จะพบเห็นในการท่องเที่ยว  เช่น   At the , Buying  a ticket  Booking  a  hotel.
                แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร  ( The  communicative  approach )  หรือ   Communicative  language  teaching  เป็นการจัดการเรียนการสอนคามทฤษฎีการเรียนรู้ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียน  จัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนดามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน  โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด  การอ่านจับใจความสำคัญ  ทำความเข้าใจ  จดจำ  แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปมากกว่าการจดจำ
                วิธีการสอนตามแนวธรรมชาติ  ( The  Natural  approach )  โดยมีการพัฒนาการสอนตามแนวธรรมชาติ  เป็นการเรียนรู้การรับรู้ภาษาที่หนึ่งของเด็กเล็ก  ซึ่งเป็นการรับรู้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีใครสอน  พัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังคงให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยกรณ์โดยวิธีการตรวจแก้ไขไปเรื่อยๆ  และระยะยาวของผู้เรียนจะสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ตามหลักไวยกรณ์  โดยเชื่อว่าความเข้าใจข้อความมาก่อนการพูดการสนทนา  และไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้านทักษะการพูด
                วิธีการสอนแบบชักชวนเป็นวิธีการสอนที่นักจิตวิทยาการศึกษาชาวบัลการเรียชื่อ  ( George  Lozanow )  วิธีสอนแบบชักชวนอิงแนวคิดที่ว่าสมองของมนุษย์เต็มไปด้วยพลัง  แต่ถูกนำมาใช้เพียงเล็กน้อย  ผู้สอนจึงควรโน้มน้าวให้ผู้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่โดยขจัดความกลัว  ความวิตกกังวล  และข้อห้ามต่างๆ  ที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนภาษา  ควรให้ผู้เรียนได้เรียนด้วยความสนุกสนานผ่อนคลายทางจิต  กิจกรรมทางภาษาที่เน้นการสื่อสาร  เน้นสภาพแวดล้อมที่เป็นจริงในการใช้ภาษา  เช่น  การแสดงละคร , การฟังบทสนทนามีดนตรีเบาๆ  ประกอบ
                วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง  วิธีการนี้ได้แนวคิดจากงานวิจัยด้านจิตวิทยาพัฒนาการและทฤษฎีการเรียนรู้  โดยเชื่อมโยงกับทฤษฎีของการจำในเชิงจิตวิทยา  มีความเชื่อว่าถ้าบุคคลใดได้รับการฝึกฝนบ่อยๆ  อย่างต่อเนื่อง  ก็จะเกิดการเก็บสะสมประสบการณ์ต่างๆ  และสามารถระลึกและถ่ายทอดออกมาได้  การจำเกิดจากการฝึกท่องจำหรือแสดงท่าทาง  มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟัง  ในช่วงต้นของการเรียนรู้โดยการแสดงท่าทางใช้คำสั่งเป็นหลักในการสอน
                การเรียนรู้แบบร่วมมือ  ( Cooperative  Leaning )  การจัดการเรียนการสอนที่แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ  ส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะประชาธิปไตย  เช่น  การคัด  การพูดคุย  กิจกรรมโต๊ะกลม,คู่ตรวจสอบการสอนภาษาว่าควรนำเสนอภาษาใหม่ในรูปแบบภาที่พบในสถานการณ์จริง  เพื่อนำไปสู่การสอนคำศัพท์  ไวยกรณ์  การอออกเสียงมีการฝึกฝนจนเกิดความเข้าใจเนื้อหาไวยกรณ์  สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง  แล้วจึงนำความรู้ที่ได้ไปฝึกในสถานการณ์จริง
                การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้  การภาษาที่นำเนื้อหาวิชาต่างๆ  มาบูรณาการกับจุดหมายของการอสนภาษา  กล่าวคือผู้เรียนใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้  และในขณะเดียวกันก็พัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารไปด้วย  ดังนั้นการคัดเลือกเนื้อหาที่นำมาให้ผู้เรียนได้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง  เพราะเนื้อหาที่คัดเลือมาจะต้องเอื้อต่อการบูรณการการสอนภาษาทั้ง  4  ภาษาทักษะ  คือ  การฟัง  การพูด  การอ่าน  การเขียน  นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์  สามารถตีความประมวลข้อมูลของเรื่อง  และพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ  ได้  ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ภาษาในลักษณะองค์รวม


                การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ  กลวิธีการเรียนรู้ซึ่งเปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม  และกระบวนการแก้ปัญหา  เป็นตัวนำกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะโดยไม่ยึดติดโครงสร้างของสาขาวิชาต่างๆ  ทางด้านวิชาการ  เพื่อเป็นประโยชนน์ในการจัดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน  การเรียนรู้แบบบูรณาการเป็นการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดจากวิชาและประสบการณ์ต่างๆ  เข้ามาผสมผสานเป็นการส่งเสริมให้มีการขยายโลกทัศน์และวิสันทัศน์ให้กว้างขึ้น  นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนเข้ากับชีวิตจริงและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง  จนเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายมากขึ้น

วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558

A little princess แปลนวนิยาย








https://www.youtube.com/watch?v=WyCzOTRbPug

บทที่1 โรงเรียนในประเทศอังกฤษ
         วันหนึ่งในอากาศที่หนาวเย็นเด็กหญิงตัวน้อยและพ่อของหล่อนมาถึงในลอนดอน. ซาร่า คูรว์ อายุ 7 ขวบ เธอผมยาวสีดำและตาสีเขียว เธอนั่งในรับจ้างถัดจากพ่อของของเธอและมองออกไปนอกหน้าต่างที่มีบ้านสูงและท้องฟ้าที่มืด
"เธอกำลังคิดอะไร ซาร่า? " นายครูว์ ถาม "เธอเงียบ"เขาว่า มือโอบลูกสาว "ฉันคิดเกี่ยวกับบ้านของเราในอินเดีย" ซาร่าพูด เหมือนกับว่าแสงแดดร้อน และท้องฟ้าที่สดใส ฉันคิดว่า ฉันไม่ชอบ ประเทศอังกฤษมากเลย พ่อ.
"ใช มันแตกต่างจากอินเดีย" พ่อของเธอพูด.
"แต่เธอต้องไปโรงเรียนในลอนดอนและฉันต้องกลับไปอินเดียเพื่อทำงาน"
"ใช่ พ่อ ฉันรู้" ซาร่าพูด "แต่ฉันต้องการพ่อ ขอร้องละมาโรงเรียนกับฉัน ฉันสามารถช่วยคุณในบทเรียนของคุณได้"
นายครูว์ เขาก็ไม่มีความสุข เขารักซาร่าตัวน้อยของเขามากและเขาไม่ต้องการที่จะไม่มีหล่อน. แม่ซาร่าตายและซาร่าเป็นลูกคนเดียวของเขา พ่อและลูกสาวเป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน.
ไม่นานพวกเขาก็มาถึงที่โรงเรียนสำหรับเด็กผู้หญิงของนางมิชชินและเข้าไปในบ้านหลังใหญ่ นางมิชชินเป็นผู้หญิงสูงใส่ชุดดำ หล่อนมองดูซาร่าและยิ้มให้เธอเป็นการใหญ่ "เด็กอะไรสวย" หล่อนพูดกับนายครูว์
ซาร่ายืนเงียบและดูนางมิชชิน "ทำไมหล่อนพูดอย่างนั้น???" เธอคิด "ฉันไม่สวย ดังนั้นทำไมหล่อนถึงพูดมัน?" ซาร่าเป็นคนไม่สวยแต่พ่อของเธอรวยและนางมิชชินชอบเด็กผู้หญิงที่พ่อรวย เพราะมันเป็นเรื่องที่ดีสำหรับโรงเรียน(ดีสำหรับนางมิชชินเช่นกัน)
"ซาร่าเป็นเด็กผู้หญิงที่ดี" นายครูว์พูดกับนางมิชชิน "แม่ของเธอเป็นคนฝรั่งเศสดังนั้นเธอพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดี เธอรักการอ่านหนังสือและเธออ่านได้ทุกเวลาแต่เธอต้องการที่จะเล่นกับเด็กผู้หญิงคนอื่นและมีเพื่อนใหม่เช่นกัน"
"แน่นอน" นางมิชชินพูด หล่อนยิ้มให้อีกครั้ง "ซาร่าจะมีความสุขมากที่อยู่ที่นี่นายครูว์"
นายครูว์พักอยู่ในลอนดอนสำหรับสัปดาห์นี้ เขาและซาร่าไปร้านค้าและเขาซื้อของจำนวนมากที่สวยงาม,ชุดราคาแพงสำหรับลูกสาวของเขา.เขาซื้อหนังสือหลายเล่ม,ดอกไม้สำหรับห้องของเธอและตุ๊กตาตัวใหญ่ใส่ชุดสวยเช่นกัน
นางมิชชินยิ้ม,หล่อนพูดกับอาเมร่าน้องสาวของหล่อน: "เงินทั้งหมดซื้อชุดสำหรับเด็ก7ขวบ! หล่อนมองดูเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อย เมื่อนายครูว์ใช้ชีวิตในลอนดอน,เขารู้สึกเศร้ามาก. ซาร่ารู้สึกเศร้าเช่นกัน,แต่เธอไม่ร้องให้. เธอนั่งในห้องของเธอและคิดเกี่ยวกับพ่อของเธอบนเรือที่กลับอินเดีย.
"พ่อต้องการฉันถึงจะมีความสุข"เธอพูดกับตุ๊กตาใหม่ของเธอ. ฉันรักเขามากและฉันต้องเป็นลูกสาวที่ดี,ดังนั้นฉันต้องมีความสุข
ตุ๊กตามันใหญ่และสวยมากแต่แน่นอนมันไม่สามารถโต้ตอบได้.
ไม่นานซาร่าก็มีเพื่อนใหม่ในโรงเรียน. เด็กผู้หญิงรวยบางคนเป็นเด็กที่นิสัยไม่ดี พวกเขาคิดว่าพวกเขาไม่สำคัญเพราะว่าพวกเขามีเงินและของบางสิ่งที่แพงมากมาย. แต่ซาร่าแตกต่าง. เธอชอบชุดสวยและตุ๊กตา,แต่เธอก็สนใจคนหนังสือและเรื่องเล่า
เธอรู้สึกดีที่ได้เล่าเรื่องราว. เธอเป็นเด็กที่ฉลาดและเด็กผู้หญิงคนอื่นๆชอบที่จะฟังเธอ เรื่องราวทั้งทั้งหมดเกี่ยวกับราชา,ราชินี,และเจ้าหญิงและเป็นเรื่องน่ามหัศจรรย์ที่ไกลโพ้นทะเล
"เธอคิดอย่างไรเกี่ยวกับเรื่องราวทั้งหมด?" เธอถามเพื่อนที่ดี,เออเมนกาด
"ฉันมีแต่รูปพวกนี้ทั้งหมดอยู่ในหัวใจของฉัน" ซาร่าพูด , "ดังนั้นมันง่ายต่อการเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับพวกมัน"เออเมนกาดเป็นคนยากจนไม่ฉลาด.เธอไม่เคยจำบทเรียนของเธอได้และนางมิชชินโกรธเธอเป็นประจำซาร่าช่วยเหลือเออเมนกาดบ่อยครั้งเกี่ยวกับบทเรียนของเธอ. "ฟัง,เออเมน" เธอพูด "เธอจำพระราชาฝรั่งเศส ,หลุยส์ ที่16ได้ไหม? เยี่ยม,นี่คือเรื่องราวเกี่ยวกับเขา. วันหนึ่งในปี 1792....."
เออเมนกาดได้เรียนรู้บทเรียนของเธอผ่านเรื่องราวของซาร่า,และเธอรักเพื่อนของเธอมาก แต่ไม่ทุกคนที่เป็นเพื่อนของซาร่า. ลาวิเนียเป็นเด็กผู้หญิงอายุมากมาก่อนซาร่า,ลาวิเนียเป็นคนที่รวยที่สุดและเป็นเด็กผู้หญิงที่มีความสำคัญในโรงเรียน.แต่พ่อของซาร่าก็เป็นคนรวยเช่นเดียวกับพ่อของลาวิเนีย. ดังนั้นในตอนนี้ซาร่าก็มีความสำคัญเช่นเดียวกับลาวิเนียและลาวิเนียไม่ชอบ
"โอ้,ซาร่าฉลาดมาก!"ลาวิเนียพูดบ่อยครั้งซาร่า. "ซาร่าพูดภาษาฝรั่งเศสได้ดีมาก! ชุดของเธอสวยมากและเธอสามรถร้องร้องเพลงได้ดีมาก!และรวยมาก! แน่นอนนางมิชชินชอบเธอที่สุด!"
ซาร่าไม่ตอบเมื่อลาวิเนียพูดถึงสิ่งนั้น บางครั้ง,มันไม่ง่ายแต่ซาร่าเป็นคนใจดี,เป็นเด็กผู้หญิงที่อัธยาศัยดี

บทที่2 #‎เหมืองแร่เพชร

        3ปีต่อมา, พ่อของซาร่าเขียนจดหมายถึงเธอบ่อยครั้งและซาร่าก็เขียนจดหมายแสดงความรักกลับไปหาเขา. วันหนึ่งเขารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้รับจดหมาย ทุกคนในโรงเรียนพูดถึงเกี่ยวกับมัน "เพื่อนของฉัน" เขียนโดยนายครูว์ , มีเหมืองแร่ในอินเดียทางตอนเหนือและเดือนที่ผ่านมาคนงานของเขาพบเพชรที่นั่น มีเพชรหลายพันในเหมืองที่นั่น,แต่มันเป็นงานที่ราคาแพงกว่าจะได้ออกมาเพื่อนของฉันจำเป็นต้องช่วยฉัน. ดังนั้น,"คุณหญิงตัวน้อย (นี่เป็นชื่อพิเศษของนายครูว์สำหรับซาร่า) ฉันกำลังวางเงินทั้งหมดของฉันไปกับเหมืองแร่เพชรของเพื่อนฉันและวันหนึ่งเธอและฉันจะรวยมาก"
ซาร่าไม่ได้สนใจเงินแต่เรื่องราวที่เกี่ยวกับเหมืองแร่เพชรในอินเดียเป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น เกือบทุกคนดีใจมากสำหรับซาร่า,แต่ลาวิเนียไม่แน่นอน.
"ฮึ!"เธอพูด "แม่ของฉันมีเพชร คนจำนวนมากมีเพชร. มีอะไรน่าสนใจเกี่ยวกับเหมืองแร่เพชร?
"แต่ที่นั่นมีเพชรหลายพันในเหมือนแร่นั้น" เออเมนกาดพูด "บางทีหลายล้านของพวกเขา!"
ลาวิเนียหัวเราะ"คือซาร่าจะใส่เพชรในผมของเธอตอนอาหารเช้า,แล้ว? คือจะเป็น"เจ้าหญิงซาร่า"
หน้าของซาร่าเปลี่ยนเป็นสีแดง เธอมองที่ลาวิเนียอย่าโกรธ,แต่เธอพูดอย่างเบาๆ"บางคนเรียกฉันเจ้าหญิง" ฉันรู้แล้ว แต่เจ้าหญิงไม่โกรธหรือพูดสิ่งที่ไม่ดี ดังนั้นฉันจะไม่พูดสิ่งที่ไม่ดีกับเธอลาวิเนีย
"ถึงฉัน,เธอเป็นเจ้าหญิง"เออเมนกาดพูดกับซาร่า "และเธอก็ดูเหมือนเจ้าหญิงในชุดสวยของเธอ" ซาร่าเป็นเจ้าหญิงสำหรับเด็กคนอื่นเช่นกัน . นี่คือ เบ็คกี เธอเป็นสาวรับใช้ในโรงเรียนนางมิชชินเธอมีอายุเพียง14ปีแต่เธอทำงานทั้งวันและบางครั้งทำงานถึงเที่ยงคืน เธอต้องขนบางสิ่งขึ้นลงบันไดหล่อนทำความสะอาดพื้น,ก่อไฟและเธอเหนื่อยหิวและสกปรกตลอดเวลา. เธอและซาร่ามีชีวิตที่แตกต่างกันมาก
วันหนึ่งซาร่าเข้าไปในห้องนอนของเธอและนั่นเบ็คกีกำลังหลับบนเก้าอี้.
"โอ้ สิ่งของของเธอสภาพไม่ดี!"ซาร่าพูด
แล้วเบ็คกีก็ลืมตาของเธอและเห็นซาร่า. เธอลุกขึ้นในทันที. "โอ้ นาง"เธอพูด "ฉันขอโทษ ฉันเพียงแค่นั่งหลับไม่กี่นาที...."
"ไม่ต้องกลัว" ซาร่าพูด . เธอยิ้มให้เบ็คกีอย่างเป็นมิตร ."เธอเหนื่อย"
"เธอ...เธอจะบอกนางมิชชินไหม?" เบ็คกีถาม เธอเริ่มเดินไปที่ประตู .
"ไม่แน่นอน" ซาร่าพูด "ขอร้องละ ไม่ต้องวิ่งหนี" ไม่กี่นาทีเธอนั่งลงอีกครั้ง เธอดูเหนื่อย"
“โอ้ นาง! เธอเป็นคนใจดี,แต่นางมิชชิน....."
"ได้โปรด "ซาร่าพูด เธอจับมือเบ็คกี . "เธอเป็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ,เหมือนฉัน เราจะเป็นเพื่อนกัน " ดังนั้นเบ็คกีนั่งลงอีกครั้ง ไม่นานเธอและซาร่าเป็นเพื่อนกัน ไม่มีใครรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้แน่นอน. เด็กผู้หญิงรวยที่โรงเรียนของนางมิชชินไม่มีใครเป็นเพื่อนกับสาวรับใช้และมันเป็นเรื่องมหัศจรรย์สำหรับเบ็คกี. เกือบทุกวันเธอและซาร่าเจอกันในห้องนอนของซาร่า ,เพียงห้าถึงสิบนาที . เบ็คกีหิวเสมอและซาร่ามักจะซื้อของบางสิ่งสำหรับให้หล่อนกิน. พวกเขาจะนั่งคุยกัน บางครั้งซาร่าเล่าเรื่องราวบางอย่างให้เธอฟัง . เบ็คกีรักเธอ
"โอ !นาง" เธอพูด "คุณเล่าพวกเขาอย่าสวยงาม" บางครั้ง ฉันชอบเรื่องราวที่ดีของเธอมากกว่าสิ่งที่จะกิน."
หลังจากไปมาหาสู่ห้องของซาร่า เบ็คกีรู้สึกดีมาก ไม่เหนื่อยและไม่หิว
เดือนต่อมาซาร่ามีวันเกิดครบ11ปีมีการหยุดการเรียนสำหรับช่วงบ่ายและมีงานปาร์ตี้ใหญ่สำหรับเด็กผู้หญิงทั้งหมดในโรงเรียน
"นี่คืองานปาร์ตี้ที่แพงที่สุดสำหรับพวกเรา" นางมิชชินพูดกับอาเมร่าน้องสาวของเธอ "แต่มันดูดีสำหรับโรงเรียน"
        บ่ายวันนั้นมีผู้เข้าชมโรงเรียน ทนายความของนางมิชชิน. เขาไปกับนางมิชชินในสำนักงานของเธอและพวกเขาปิดประตู ในห้องเรียนถัดจากประตูที่นั้นเสียงดังมากจากงานปาร์ตี้ของซาร่า ทุกคนในที่นั้นมีความสุขมาก .
แต่ในสำนักงานนางมิชชินไม่มีความสุข. เธอมองทนายอย่างโกรธ ."เธอพูดว่าอะไรนะ ? นางครูว์ไม่มีเงิน? สิ่งที่เกี่ยวกับเหมืองแร่เพชร?"
"ที่นั้นไม่ม่เพชร" ทนายพูด " ดี, มีเหมืองแร่ แต่ไม่มีเพชร"
"แต่เพื่อนที่ดีของนายครูว์ - นางนิชชิน"
"เพื่อนที่ดีของนายครูว์" ทนายพูด "หนีไปพร้อมกับเงินทั้งหมดของนายครูว์ . ราล์ฟ ครูว์ ไม่สบายเป็นไข้และเมื่อเขาได้ยินเกี่ยวกับสิ่งนี้เขาอาการแย่ลงสัปดาห์ ต่อมาเขาก็ตาย
"ตาย"นางมิชชินร้อง "แต่เรื่องนี้เกี่ยวกับซาร่าลูกสาวเขา? นี่งานปาร์ตี้วันเกิดราคาแพง? "
"ซาร่าครูว์ ไม่มีเงิน"ทนายความพูด "ไม่มีเงินในโลก? นางมิชชินไม่มีเงิน"
"เธอต้องออกจากโรงเรียนของฉันเดี๋ยวนี้" นางมิชชินพูดอย่างโกรธ "เธอต้องไปบ่ายวันนี้
"ที่ไหน"ทนายความพูด "ออกไปในถนน? เด็กผู้หญิงอายุ11ปี? นั่นจะมองไม่ดีสำหรับโรงเรียนของคุณ?นางมิชชิน"
หน้าของนางมิชชินเปลี่ยนเป็นสีแดง
"เธอไม่สามารถปล่อยหล่อนให้ออกไปถนนได้"ทนายความพูด เขายืนขึ้น "แต่บางทีเธอสามารถช่วยงานคุณได้"
ทนายความฝากไว้,นางมิชชินเรียกอาเมร่าน้องสาวของเธอ"พาซาร่าครูว์มาที่นี่เดี๋ยวนี้"เธอพูด
2นาทีต่อมา ,ซาร่า ในชุดราตรีสีฟ้าที่สวยของเธอ,ยืนข้างหน้านางมิชชิน
"ซาร่าเธอมีชุดสีดำไหม?, นางมิชชินพูดอย่างเย็นชา
"มีคะ,นางมิชชิน"ซาร่าพูด "แต่มันเล็กมาก"
"ไปและใส่มันเดี๋ยวนี้" นางมิชชินพูด "พ่อของเธอตายแล้ว ที่เหมืองแร่ไม่มีเพชรและเพื่อนของพ่อเธอหนีไปพร้อมกับเงินของเขา เธอไม่เหลืออะไร ไม่มีเงินแต่ฉันจะใจดีกับเธอ เธอสามารถพักในบ้านของฉันได้และในตอนนี้เธอจะต้องเป็นคนรับใช้และทำงานเพื่อแลกเงิน เธอสามารถหลับในห้องคนรับใช้บนบันได,ถัดจากห้องของเบ็คกี

บทที่3 เด็กผู้หญิงรับใช้ใหม่

       ตอนเย็น,ในห้องใต้หลังคาเล็กๆซาร่านั่งบนที่นอนในชุดสีดำเก่าของเธอ เธอไม่ร้องให้,แต่หน้าเธอซีดแล้วเธอนั่งนิ่ง ไม่พูดเป็นชั่วโมง
   คืนต่อมาประตูห้องเปิดออกอย่างช้าๆและเบ็คกีมองเข้าไปข้างใน ตาเธอเป็นสีแดงจากการร้องให้ "โอ้นาง"เธอพูด "สาวใช้ทั้งหมดพูดมันเกี่ยวกับเรื่องนี้ ฉันของโทษ ขอโทษ! เธอมองหน้าที่ซีดของซาร่า,และเริ่มร้องให้อีกครั้ง แล้วเธอก็วิ่งเข้าไปหาซาร่าและจับมือของหล่อน

ไม่นานซาร่าก็เริ่มขยับอย่างช้าๆเธอจับมือหล่อนกลับและมองที่เบ็คกี "โอ้เบ็คกี" เธอพูด
คืนแรกในห้องใต้หลังคาที่ยาวนาน ซาร่านอนไม่หลับ "พ่อตาย" เธอพรึมพร่ำครั้งแล้วครั้งเล่า "พ่อฉันตาย ฉันไม่เคยได้เจอเขาอีกครั้ง"

เช้าวันถัดมาซาร่าเริ่มชีวิตใหม่ หล่อนเรียนรู้การทำความสะอาดพื้นและก่อไฟ เธอวิ่งขึ้นบันไดและลงบันไดและเธอทำงานในห้องครัว .

คนทำอาหารเป็นผู้หญิงตัวใหญ่ หน้าโกรธ "นั้น" เธอพูด "เด็กผู้หญิงที่รวยมีเหมืองแร่เพชรแต่ตอนนี้เป็นสาวรับใช้” เธอมองซาร่า "ตอนนี้,ฉันกำลังทำพายแอปเปิลสำหรับตอนเช้า วิ่งลงไปที่ร้านค้าและซื้อแอปเปิล เร็ว!”
ดังนั้น ซาร่าวิ่งไปที่ร้านและถือถุงแอปเปิลใบใหญ่กลับบ้าน แล้วเธอก็ทำความสะอาดพื้นห้องครัวและเธอก็ขนน้ำขึ้นไปส่งที่ห้องนอนทุกห้อง.
เธอทำงานทุกวัน,จากช่วงตอนเช้าถึงตอนกลางคืน. เธอช่วยงานในโรงเรียน ,เช่นกัน
'เธอพูดภาษาฝรั่งเศส ได้ดี' นางมิชชินพูดกับหล่อนอย่างเย็นชา 'ดังนั้นเธอสามารถสอนภาษาฝรั่งเศสให้กับเด็กคนอื่นได้' แต่เธอเป็นเพียงแค่คนรับใช้อย่าลืม!
ชีวิตใหม่ของซาร่าในเดือนแรกหนักมาก. เธอจะรู้สึกเหนื่อยและหิวเสมอแต่เธอไม่เคยร้องไห้. ตอนกลางคืน,ในห้องใต้หลังคา,เธอคิดเกี่ยวกับพ่อของเธอ, ตายในอินเดีย ทั้งหมดหายไป.

"ฉันต้องกล้าหาญ" เธอพูด "พ่อต้องการฉันที่กล้าหาญ ฉันจะนอนหลับและจะกินทุกวัน มีผู้คนจำนวนมากไม่มีสิ่งนั้น"
เพื่อนเพียงคนเดียวของซาร่าคือเบ็คกี. ทุกๆวัน, เบ็คกีจะเข้ามาในห้องของซาร่า .พวกเขาไม่มีเวลาคุยกันมากแต่มันช่วยให้ซาร่าเห็นความเป็นมิตรของเบ็คกี้มากขึ้น , ใบหน้าที่ยิ้ม
เด็กผู้หญิงในโรงเรียนเสียใจกับซาร่า ,แต่ในตอนนั้นซาร่าเป็นคนรับใช้และพวกเขาไม่ควรจะเป็นมิตรกับสาวรับใช้ . ลาวิเนีย,แน่นอน" ฉันไม่เคยชอบซาร่า ครูว์ " เธอพูดกับเพื่อนของหล่อน "แล้วมันก็ถูกแล้ว เกี่ยวกับเพชรที่จะเป็นแบบนั้น !"

เออเมนกาด ไมมีความสุข เมื่อเห็นซาร่าในโรงเรียน ,ซาร่าเดินผ่านหล่อนและไม่พูดด้วย .เออเมนกาด รักซาร่าและต้องการจะเป็นมิตร,แต่เธอไม่ฉลาด และไม่เข้าใจ
วันหนึ่งตอนเช้า,เธอได้ลุกออกจากที่นอนอย่างเงียบๆขึ้นบันไดไปห้องใต้หลังคาและเปิดประตูห้องของซาร่า .
"เออเมนกาด!" ซาร่าพูด "เธอมาทำอะไรที่นี้?" เออเมนกาดเริ่มร้องไห้ "โอ้ !ซาร่า ได้โปรดพูดกับฉัน. เธอเป็นอะไร? ทำไมตอนนี้เธอไม่ชอบฉัน?
"ฉันไม่ใช่ไม่ชอบเธอ" ซาร่าพูด "แน่นอนฉันทำ แต่เธอก็เห็น,ในตอนนี้มันแตกต่างกัน นางมิชชินไม่ต้องการให้ฉันผู้กับเด็กผู้หญิงคนอื่น ส่วนมากพวกเขาไม่ต้องการพูดกับฉัน และฉันก็คิดว่า บางทีเธอไม่ต้องการ....."
"แต่ฉันเพื่อนเธอ" เออเมนการ้องไห้ "ฉันจะเป็นเพื่อนเธอตลอดไป และไม่มีใครห้ามฉันได้"
ซาร่าจับมือของเออเมนกาด . ทันใดนั้นเธอรู้สึกมีความสุข .บางทีเธอร้องไห้เช่นกัน .
มีเก้าอี้เพียงตัวเดียว , ดังนั้น ทั้งสองนั่งลงบนเตียง มองไปรอบๆห้องใต้หลังคา "โอ้ ซาร่า เธอสามารถอยู่ในห้องนี้ได้ ?มันชั่งเย็นและสกปรก
" มันไม่ ดีเลย" ซาร่าพูด "ที่นั้นห้องถัดไปเป็นของเบ็คกี" เธอเดินไปที่โต๊ะใต้หน้าต่าง,แล้วเธอและเออเมนกาด ยืนขึ้นบนโต๊ะและมองออกไปรอบหน้าต่าง,เหนือหลังคาของบ้าน . ในกล่องของซาร่ามีขนมปังชิ้นเล็กบางส่วน เธอวางบนมือของเธอแล้วยืนออกไปนอกหน้าต่าง "ดู" ซาร่าพูด
หลังจากนั้นไม่กี่นาทีมีนกบินลงมาบนมือของซาร่าและเริ่มกินขนมปัง .แล้วนกตัวที่สอง,สามและสี่.
" โอ้ ซาร่า ชั่งมหัศจรรย์ "เออเมนกาดพูด
"พวกเขารู้ ฉันเป็นเพื่อนพวกเขา "ซาร่าพูด "ดังนั้นมันไม่กลัว, บางทีพวกมันเข้ามาในห้องของฉันเช่นกัน,
เออเมนกาดมองข้ามหลังคาไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาถัดไป " ใครอาศัยอยู่บ้านนั้น? เธอถาม
"ไม่มีใคร"ซาร่าพูดอย่างเศร้าใจ 'ดังนั้น ฉันไม่เคยเห็นใครที่หน้าต่าง ฉันสามารถพูดเพียงกับนก "
แต่ในคืนหนึ่ง , 2-3 สัปดาห์ต่อมา , เบ็คกีเข้ามาในห้องของซาร่า. เธอรู้สึกตื่นเต้นมาก
"โอ้ นาง! มีสุภาพบุรุษชาวอินเดียกำลังย้ายเข้าไปบ้านถัดไป. เยี่ยม,เขาเป็นคนอังกฤษแต่เขาอาศัยในอินเดียมาหลายปีและในตอนนี้เขากำลังจะมาอยู่ถัดไป . เขารวยมาก เขาไม่สบาย มีบางสิ่งที่ไม่ดีเกิดขึ้นกับเขา , แต่ฉันไม่รู้ว่ามันคืออะไร"
ซาร่าหัวเราะ "คุณรู้ทั้งหมดได้อย่างไร? เธอถาม
"เธอรู้จักครอบครัวคาร์ไมเคิลข้ามถนน? เบ็คกีพูด "ฉันเป็นเพื่อนกับสาวใช้ในครัวและหล่อนเราให้ฉันฟัง นายคาร์ไมเคิลเป็นทนายความสุภาพบุรุษชาวอินเดีย ดังนั้นพวกเราจึงรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับเขา .

‪บทที่4 แรม แดสและลิง


      ทุกตอนเช้า , เมื่อซาร่าให้ขนมปังกับพวกนก,เธอมองข้ามไปยังหน้าต่างห้องใต้หลังคาประตูถัดไป แต่ไม่มีใครเปิดมัน. ไม่มีใครเรียก 'สวัสดีตอนเช้า ! ข้ามหลังคา หรือยิ้มให้ซาร่าอย่างเป็นมิตร.
บางที สุภาพบุรุษชาวอินเดีย คนรับใช้ทั่งหมดนอนอยู่ชั้นล่าง' เธอคิดอย่างเศร้าใจ .

ชีวิตของเธอรู้สึกเหงามากในตอนนี้ หล่อนเห็นเบ็คกีทุกวัน,แน่นอน พวกเขาไม่มีเวลามากสำหรับการพูดคุย . คนทำอาหารและสาวใช้คนอื่นๆไม่เป็นมิตรด้วย. บางครั้งในตอนกลางคืน เออเมนกาดเขามาในห้องของซาร่าแต่มันไม่ง่ายสำหรับหล่อนที่จะขึ้นมาบ่อยครั้ง.

วันหนึ่งในตอนเย็น,ซาร่าอยู่ในห้องใต้หลังคาของเธอเมื่อหล่อนได้ยินเสียงดังบนหลังคา เธอมองขึ้นไปและที่หน้าต่างเปิดมีลิงตัวเล็กอยู่
" โอ้ ที่รัก "ซาร่าร้อง ในทันที ลิงกระโดดลงมาและเริ่มวิ่งไปรอบห้อง. ซาร่าหัวเราะ เธอขึ้นไปบนโต๊ะ และมองออกไปที่หน้าตา ,ถัดไปที่หน้าต่าง เธอเห็นหน้า-หน้าที่กำลังยิ้มของแขกชาวอินเดีย
"โอ้! ซาร่าร้อง "ลิงของคุณ เขาอยู่ในห้องของฉัน"
แขกชื่อ แรม แดส และใช่ , มันคือลิงของเขา . เขายิ้มให้ซาร่า
"ฉันขอโทษ" เขาพูด "ฉันสามรถเข้าไปพาเขามาได้ไหม?
"โอ้ แน่นอน,ขอร้องละ "ฉันคิดว่าเขากลัวฉันและเขาก็วิ่งเร็ว! แต่คุณจะสามารถข้ามหลังคามายังไง?
ใช่,แรม แดสสามารถ และไม่กี่หน้าทีต่อมา เขาอยู่ในห้องของซาร่า. ทันที ลิงก็กระโดดมาบทแขนของเขา, แรม แดส ขอบคุณซาร่าอีกครั้ง แล้วเขาก็ข้ามหลังคาจากไป กลับไปบ้านถัดไป ซาร่าเดินไปร้านค้า ห้าถึงหกครั้งต่อวันและเมื่อหล่อนเดินผ่านบ้านหลังถัดไป หล่อนมักจะนึกถึงสุภาพบุรุษ เธอรู้สึกเศร้าใจสำหรับเขา. เขาไม่มีภรรยาหรือครอบครัวและมีหมอมาที่บ้านของเขาทุกวัน. ทนายความของนายคาร์ไมเคิลมักจะมาบ่อยเช่นกันและบางครั้งลูกของคาร์ไมเคิลกลับไปกลับเขา
ซาร่าพอใจกับเรื่องนี้ “มันเป็นเรื่องที่ดีที่เห็นใบหน้าที่เป็นมิตรเมื่อเธอป่วย ” เธอคิด
สุภาพบุรุษชาวอินเดีย คิดแบบนั้นเช่นกัน เขาชอบเด็กพวกนั้นมาก แต่เขาก็ดูเป็นผู้ชายที่ไม่มีความสุขนายคาร์ไมเคิลเป็นเพื่อนของเขา เขาพูดกันเยอะมากแต่เขาพูดกันเพียงสิ่งเดียว
“ฉันต้องหาเด็ก” เขาพูดกับสุภาพบุรุษชาวอินเดีย (เขาชื่อ คาร์ริชฟอร์ด) “ฉันต้องหาหล่อนและดูแลหล่อน แต่หล่อนอยู่ที่ไหน? ที่ฉัน, ซึ่งเงินทั้งหมดจากเหมืองแร่เพชรและครึ่งหนึ่งมันคือเงินของ ราฟล์ ครูว์ โอ้! คาร์ไมเคิล, ทำไมฉันทอดทิ้งเพื่อนของฉันและหนีออกมาเมื่อเห็นสิ่งที่ไมดี ทำไม? ”
“เธอหนีออกมา เพราะ เธอป่วยไม่สบาย” นายคาร์ไมเคิลพูด “มันไม่ฆ่าคุณทั้งหมด จำได้ไหม? ”
“และมันไม่ฆ่า ราฟล์ ที่ยากจน” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด “เขาลงทุนเงินทั้งหมดของเขาไปกับการทำเหมืองแร่ เพราะ ฉันเป็นเพื่อนของเขา แต่ที่แรกพวกเราไม่เจอเพชรและเงินทั้งหมดของราฟล์หมดไป ฉันกลัวที่จะบอกเขา, ดังนั้นฉันจึงหนีออกมาและหลังจากนั้นเมื่อพวกเราเจอเพชร,ราฟล์ก็ตาย”
“มันไม่ง่ายที่จะกล้าเผชิญ” นายคาร์ไมเคิลพูดอย่างเงียบๆ, เมื่อเขาป่วยไม่สบาย”นายคาร์ริชฟอร์ดมองไปยังกองไฟ “แรม แดส พูดกับฉัน” เขาพูด “เกี่ยวกับเด็กผู้หญิงคนรับใช้ ประตูถัดไป ลิงวิ่งหนีออกไป, และแรม แดสข้ามหลังคาไปพาลิงของเขากลับจากห้องของเธอ เด็กยากจนนอนหลับในที่อากาศเย็น, ห้องใต้หลังคาสกปรกและทำงาน 16 ชั่วโมงต่อวัน ลูกสาวของราฟล์ อยู่ที่ไหน? ฉันไม่สามารถหยุดความคิดเกี่ยวกับเรื่องนี้ได้”
“พวกเราจะไปหาหล่อนในวันหนึ่ง” นายคาร์ไมเคิลพูด
“แต่ไปยังไง? ” คาร์ริชฟอร์ดพูด .เขาวางมือของเขาบนมือเขา “ฉันไม่เคยหล่อน ฉันไม่รู้ชื่อหล่อน! ราฟล์ เรียกหล่อนเสมอว่า “นางน้อย” พวกเราพูดตลอดเวลาเกี่ยวกับเรื่องนี้ที่เหมือง. เขาไม่เคยพูดชื่อโรงเรียนของหล่อน. แม่ของหล่อนเป็นคนฝรั่งเศส , ดังนั้นเขาไปโรงเรียนของหล่อนในฝรั่งเศส? หรือในอังกฤษ?
ดี พวกเรารู้จักเด็กที่โรงเรียนในปารีส, คาร์ไมเคิลพูด “ซึ่งชื่อของคาร์หรือครูล์ , พ่อของหล่อนตายในทันทีและครอบครัวรูซเชิลพาหล่อนหนีพวกเขาเพราะเป็นเพื่อนของลูกสาวเขา,บางทีเด็กผู้หญิงคนนั้นคือลูกสาวของราฟล์ ครูว์” สัปดาห์ถัดไปฉันจะไปกรุงมอสโคว์เพื่อหาหล่อน” “ฉันจะไปหาเธอ, แต่ฉันไม่ดี” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด “ฉันต้องหาหล่อน,คาร์ไมเคิล ฉันต้องทำ ทุกๆ คืน,ในความฝัน,ฉันเห็นหน้าของราฟล์ ครูว์และเขาก็พูดว่า: ทอม ทอม นางน้อยอยู่ที่ไหน? ฉันไม่มีคำตอบให้เขา” นายคาร์ริชฟอร์ดจับมือเพื่อนของเขา “ช่วยฉันหาหล่อน ช่วยฉัน” ฤดูหนาวในช่วงสั้น,ค่ำคืนหนึ่ง ห้องใต้หลังคาอากาศเย็นมาก. ที่นั้นไม่มีไฟสำหรับเด็กหญิงรับใช้และบ่อยครั้งซาร่าและเบ็คกีไม่สามารถนอนได้เพราะอากาศเย็น. ซาร่าเป็นคนตัวสูงและชุดสีดำเก่าของหล่อนสั้นมาก. รองเท้าของเธอเก่าและเธอไม่มีชุดที่อบอุ่นสำหรับอากาศที่หนาว. เธอเป็นคนผอมเช่นกัน. เธอไม่มีอะไรมากสำหรับการกินและหล่อนหิวเป็นประจำ
เธอถือตะกร้าใบใหญ่ไปร้านค้าผ่านฝนและหิมะ วันหนึ่งเธอพบเงินในหิมะและเธอซื้อขนมปังใหม่ด้วยเงินนั้น. แล้วเธอเห็นเด็กนั่งอยู่ที่ประตูของร้านค้า . เด็กคนนั้นไม่มีรองเท้า ไม่มีเสื้อและหน้าของเป็นสีน้ำเงินจากอากาศที่เย็น.
“เธอหิวแล้วฉันละ” ซาร่าคิด และหล่อนก็ให้ขนมปังชิ้นใหม่ที่ร้อนกับเด็กคนนั้น.
เมื่อหล่อนกลับถึงโรงเรียน,นางมิชชินโกรธ “คนทำอาหารรอเธออยู่ ซาร่า . ทำไมเธอถึงสาย?”
“ฉันไม่สามารถเดินเร็วได้ ในช่วงฤดูหนาว” ซาร่าพูด “รองเท้าของฉันเก่า ,นางมินชินและฉันรู้สึกเย็น”
นางมิชชินไม่ชอบที่ได้ยินแบบนั้น “หยุดพูดกับฉันแบบนี้นะ” “ฉันใจดีกับเธอ ฉันให้บ้านนเธอ แต่เธอไม่เคย “ขอบคุณ” กับฉัน”ซาร่ามองที่หล่อน “เธอไม่ได้ใจดีและนี่ไม่ใช่บ้าน” หล่อนพูดอย่างรวดเร็ว
“ไปห้องของเธอเดี๋ยวนี้ ” นางมิชชินพูด
บนบันได้ ซาร่าเจอลาวิเนีย. ลาวิเนียมองมาที่หล่อนและหัวเราะเล็กน้อย “โอ้ นี่คือเจ้าหญิงซาร่า, ชุดหล่อนเก่าและสั้นสกปรก!”
ในห้องใต้หลังคา ซาร่านั่งลงบนเก้าอี้โต๊ะของเธอ.
“ฉันต้องกล้าหาญ” เธอพรึ่มพร่ำ “เจ้าหญิงเป็นคนที่กล้าหาญ, ฉันต้องทำได้เช่นกัน. แต่มันไม่ง่ายเลย” เธอเอาหัวของเธอวางบนแขน “โอ้ พ่อ,จำ “นางน้อย” ได้ไหม? เธอเห็นฉันไหม? ”
ในบ้านหลังถัดไป นายคาร์ริชฟอร์ดนั่งพิงไฟ. กรุงมอสโคว์มีอากาศหนาวเย็นนานกว่าลอนดอน. เขาเพียงรอเวลา, แต่เขานึกถึงเกี่ยวกับลูกของราฟล์ ครูว์ ทุกวัน. เขานึกถึงเกี่ยวกับเด็กคนอื่นๆเช่นกัน.
“แรม แดส” เขาพูด “ทำอย่างไรกับเด็กหญิงรับใช้ที่ยากจนประตูถัดไป? เราสามารถทำอะไรบางสิ่งบางอย่างกับเธอ?”
“ฉันเห็นเธอที่ถนนทุกวัน” แรม แดส พูด “ในเวลาที่มีฝน, หิมะ. หล่อนดูผอมและหิว แต่พวกเราสามารถช่วยหล่อนได้ ฉันสามารถเข้าถึงได้โดยง่ายผ่านหน้าต่างห้องใต้หลังคาของเธอ . ฟัง… และเขาก็พูดไม่กี่นาที” นายคาร์ริชฟอร์ดยิ้ม “ใช่” เขาพูดกับ แรม แดส. “ใช่ ฉันคิดเหมือนกัน”

บทที่ 5 ความมหัศจรรย์


คืนหนึ่ง,ในสัปดาห์ต่อมา,เออเมนกาดลุกออกจากที่นอนอย่างเงียบๆขึ้นไปบนห้องใต้หลังคา. ซาร่าไม่อยู่ที่นี้ , ดังนั้นเออเมนกาดนั่งบนเตียงและรอ. 10 นาฬิกา ซาร่าขึ้นบันไดมาอย่างช้าๆและเขาไปในห้อง
เออเมนกาดมองมาที่หล่อน “โอ้ ซาร่า!” เธอร้อง “เธอไม่สบาย? หน้าเธอซีด?และเธอดูเหนื่อย!”
“มันเป็นวันที่หนัก, เออเมน” ซาร่าพูด เธอนั่งลง. “นางมิชชินโกรธกับการทำอาหาร.แล้วคนทำอาหารก็โกรธพวกเรา. เบ็คกีและฉันไม่มีอาหารเย็นและน้ำชา”
“เกิดขึ้นบ่อยไหม?”เออเมนกาดที่ไม่มีความสุขพูด. “เธอไม่เคยบอกฉัน. เธอ-เธอหิวไหมในตอนนี้? ” ซาร่ามองไปที่หล่อน “ใช่” หล่อนกระซิบ “ใช่, ฉันจะกินของที่อยู่บนโต๊ะ ฉันอยากกิน, คุณ”
เออเมนกาด กระโดดขึ้น “ซาร่า” เธอร้อง “ฉันมีกล่องบางสิ่งที่ได้มาจากบ้านวันนี้. มีเค้กชิ้นใหญ่อยู่ในกล่องนั้น.ฉันจะให้กินมันในตอนนี้. เธอและเบ็คกีสามารถกินได้ทั้งหมด!”
ไม่นาน,เออเมนกาดอยู่ข้างหลัง. เด็กทั้งสามคนนั่งอยู่บนเตียงของซาร่า,และที่นั้นมีรอยยิ้ม มีความสุขเมื่อเออเมนกาดเปิดกล่องของหล่อนและหยิบมันออกมา.
“โอ้ นาง,ดูนั้น” เบ็คกีพูด.
“เธอเป็นใจดี ล เออเมน” ซาร่าพูด . หล่อนหัวเราะ “มันมหัศจรรย์,เธอรู้ เมื่อบางสิ่งเลวร้าย,บางอย่างมีเรื่องที่ดีเกิดขึ้นเสมอ.ที่มีพวกเรา,มีปาร์ตี้”
เออเมนกาดให้เค้กซาร่าและเบ็คกีและพวกเราก็เริ่มกิน. ทันใดนั้น,พวกเราหยุด มีเสียงเท้าขึ้นบันได. พวกเขาฟัง.
“โอ้ ไม่!” เบ็คกีกระซิบ. “มัน-มันคือนางมิชชิน!”
“ใช่” ซาร่าพูด หน้าของหล่อนซีดอีกครั้ง.
แล้วประตูก็ถูกเปิดออกและนางมิชชินก็เข้ามา”---------” เธอพูดอย่างโกรธ. “------เจ้าหญิงซาร่า,เบ็คกี กลับห้องใต้หลังคาของเธอเดี๋ยวนี้!
“โอ้ ได้โปรด, นางมิชชิน!” เออเมนกาดร้อง. มันเป็นเค้กของฉัน,จากบ้าน. พวกเราเพียงแค่สังสรรค์”
“กลับไปห้องของเธอ,เออเมนกาด” นางมิชชินพูดอย่างเย็นชา สิ่งเหล่านี้กับคุณและวันพรุ่งนี้'-เธอดูที่ ซาร่า -'ที่นั้นไม่มีอาหารเช้า, ไม่มีอาหารเย็น, และไม่มีชาสำหรับคุณจงจำไว้!
ในไม่ช้าห้องใต้หลังคาเงียบอีกครั้ง .เหนื่อย และหิว เด็กผู้หญิงคนรับใช้สองคนนอนไม่หลับ แต่หลังจากชั่วโมง ซาร่าก็ลืมตา.มันมีเสียงดังมาจากหน้าตา บางที?
“มีบางสิ่งที่แปลก” ซาร่ากระซิบ “มันคืออะไร?” เธอลุกขึ้นนั่งบนเตียงและมองไปรอบๆห้อง เธอมองครั้งแล้วครั้งเล่า และตาของหล่อนก็ใหญ่
ห้องพักที่แตกต่างกัน - แตกต่างกันมาก มีไฟร้อนที่มหัศจรรย์.มีใหม่, ผ้าห่มที่อบอุ่นบนเตียงของเธอและภาพที่สวยงามบนผนัง.
ซาร่าลุกจากเตียงอย่างช้าๆ.”มันคือความฝัน?” เธอพูด. “สิ่งเหล่านี้มาจากไหน?” เธอเอามือของเธอออกจากองไป. “ไม่ .มันไม่ใช่ความฝัน. ไฟมันร้อน ฉันรู้สึกโอ้! ดูบนโต๊ะ!”
มีเสื้อสีแดงบนโต๊ะ ,ถ้วยและจาน. มีชาร้อนและของกินที่ยอดเยี่ยม-พายเนื้อร้อน,แซนวิซ ,เค้ก,ส้มและแอปเปิล.
ซาร่าวิ่งไปที่ห้องของเบ็คกี “เบ็คกี” เธอกระซิบ “มานี่ เร็ว” สิ่งมหัศจรรย์เกิดขึ้นที่นี้.
เมื่อเบ็คกีเห็นห้อง,เธอไม่สามารถพูดได้ในตอนแรก แล้วหล่อนก็พูดว่า”โอ้!นาง! มันคืออะไร ทำสิ่งเหล่านี้ได้อย่างไร? ”
“ฉันไม่รู้”ซาร่าพูด “มันมหัศจรรย์” ทีแรกฉันคิดว่ามันเป็นความฝัน,แต่มันไม่ใช่ ดู- นั้นพายที่ร้อน พายเนื้อมันไม่ใช่ความฝัน!”
พวกเขานั่งลงข้างไฟ,กินและดื่ม.
“โอ้ , พายอย่างดี ” เบ็คกีพูด “ชาและเค้ก” “ฉันไม่เข้าใจ มหัศจรรย์, แต่ฉันชอบมัน”
ซาร่ามองไปรอบห้อง.”โอ้ เบ็คกี้,ดู มีหนังสือบางเล่ม. ฉันไม่เคยเห็นมาก่อน”
ซาร่าวิ่งไปที่พวกมันและเปิดหนังสือเล่มบนสุด มันเขียนบางอย่างที่นี้! ฟัง มันเขียนว่า”ถึงเด็กผู้หญิงตัวน้อยในห้องใต้หลังคา จากเพื่อน” โอ้ เบ็คกี! ซาร่าปิดหนังสือและเงยหน้าขึ้น “ฉันมีเพื่อน,เบ็คกี” เธอพูดช้าๆ “ใครบางคนเป็นเพื่อนของฉัน”
เช้าวันถัดมาเบ็คกีเจอซาร่าในห้องครัว.
“โอ้! เธอกระซิบ” “สิ่งมัศจรรย์ที่นั้นมีในตอนเช้าไหม ? หรือมันหายไปเมื่อคืน ”
“ไม่ มันยังคงอยู่ที่นั้น,” ซาร่ากระซิบกลับ “ฉันกินพายเนื้อที่เย็นเป็นอาหารเช้า.และไปก็ยังอุ่น! ”
เบ็คกียิ้มอย่างมีความสุข. นางมิชชินไม่เข้าใจมัน เมื่อซาร่าเข้าไปในห้องเรียน,เธอดูมีความสุขและสบายใจ นางต้องการเห็นหน้าซีด ,ไม่มีความสุขและตาแดงจากการร้องไห้. “ทำอย่างไรเด็กสามารถยิ้มได้” เธอคิดอย่างโกรธ . แต่แน่นอน,หล่อนไม่รู้เกี่ยวกับเรื่องมหัศจรรย์
สิ่งมหัศจรรย์ไม่หายไปไหน ทุกตอนเย็น,เมื่อซาร่าขึ้นไปบนที่นอน,เธอพบสิ่งใหม่ในห้องใต้หลังคา.มีผ้าห่มสำหรับเธอและเบ็คกี. มีภาพบนกำแพง,มีหนังสือหลายเล่ม,มีรองเท้าใหม่และเสื้อกันหนาว ทั้งหมดดี,มีกองไฟเสมอและอาหารค่ำที่ร้อนบนโต๊ะ.
“แต่ทั้งหมดนี่มาจากไหน?” เบ็คกีกล่าวในคืนหนึ่งเมื่อพวกเขานั่งที่ไฟ “มันคือใคร”
“ไม่มีเพื่อน” ซาร่าพูด “ใจดี,เพื่อนมหัศจรรย์ แต่เขาไม่ต้องการให้พวกเรารู้ชื่อเขา”
พวกเราเริ่มดูที่หนังสือเล่มใหม่เล่มหนึ่งแล้วเบ็คกีเงยหน้าขึ้น.
“โอ้ นาง”เธอกระซิบ “มีบางสิ่งที่หน้าต่าง มันคืออะไร?”
ซาร่าลุกขึ้นมอง “มันคือลิง!” เธอพูด “ลิงจากบ้านหลังถัดไป ” เธอเปิดหน้าต่างและลิงกระโดดลงมาบนแขนของเธอ.
เบ็คกีสนใจมาก “ฉันไม่เคยเห็นลิงมาก่อน” เธอพูด “เขาไม่สวยงามมาก เธอจะทำอะไรกับเขา ? ”
“มันสายมาในตอนนี้ เขาพักในห้องของฉันได้และฉันสามารถให้เขากลับบ้านได้ในตอนเช้า” ซาร่าพูด

บทที่ 6 หายและค้นพบ

      เช้าวันถัดมา,คนแรกที่มาถึงบ้านหลังถัดไปคือนายคาร์ไมเคิล,กลับมาจากรัสเซีย แต่เมื่อเขาเข้าไปในบ้าน หน้าเขาเศร้า. นายคาร์ริชฟอร์ดรู้คำตอบทันที
“เธอไม่พบหล่อน” เขาพูด
“ผมพบหล่อน”นายคาร์ไมเคิลพูด “แต่เด็กผู้หญิงคนนั้นไม่ใช่ หล่อนชื่อ เอมิลี่ คาริว,หล่อนอายุน้อยกว่าลูกสาวของราฟล์ ครูว์ ฉันเสียใจ”
“พวกเราต้องเริ่มอีกครั้ง” นายคาร์ริชฟอร์ดพูดอย่างไม่มีความสุข. “แต่ที่ไหน? ตอนนี้ 2 ปี แล้ว 2 ปี”
“ดี ! หล่อนไม่ได้เรียนโรงเรียนในปาริส, เรารู้ว่า..” นายคาร์ไมเคิลพูด “หาโรงเรียนอังกฤษ ตอนนี้”
“ใช่ , พวกเราจะเริ่มหาในลอนดอน. มีโงเรียนถัดไป,คาร์ไมเคิล”
บางทีมันจะมหัศจรรย์อีกครั้ง แต่ที่ลงความเห็น แรม แดสเข้ามาในห้องอย่างเงียบๆ.
“เด็กหญิงตัวน้อยจากห้องใต้หลังคาอยู่ที่นี้” เขาพูดกับนายคาร์ริชฟอร์ด “ลิง,เขาไปวิ่งในห้องหล่อนเมื่อคืน คุณจะเห็นหน้าหล่อน?”
“ใช่ ฉันพาหล่อนมา”
ซาร่าเข้ามาในห้องและยืนข้างหน้าของสุภาพบุรุษชาวอินเดีย. เธอยิ้มให้เขา
“ลิงของคุณเข้ามาในห้องของฉันเมื่อคืนและฉันก็พาเขาเข้าไปข้างในเพราะมันเย็น” นายคาร์ริชฟอร์ดดูหน้าหล่อนอย่างสนใจ
ซาร่ามองแรม แดสที่อยู่ที่ประตู ”จะให้ฉันไปที่แขกไหม?” ซาร่าถาม
“เธอรู้ได้อย่างไรว่าเขาเป็นแขก” นายคาร์ริชฟอร์ดพูด.
“โอ้ ฉันรู้” ซาร่าพูด “ฉันเกิดในอินเดีย” นายคาร์ริชฟอร์ดยืนขึ้นทันที. ในอินเดีย? เขาถาม.
“แต่เธอเป็นคนรับใช้ที่โรงเรียนถัดไป”
“ใช่, ในตอนนี้ฉันเป็น แต่ฉันเป็นที่แรก” ซาร่าพูด
สุภาพบุรุษมองที่คารไมเคิลและแล้วนางคาร์ไมเคิลมองที่ซาร่า.
“หมายความว่าอย่างไรที่แรก?” เขาถาม
“เมื่อครั้งแรกพ่อพาฉันมาที่โรงเรียน”
“พ่อเธออยู่ที่ไหน? ” เขาถาม
“เขาตายแล้ว” ซาร่าพูดอย่างเงียบๆ “เพื่อนเขาหนีไปพร้อมเงินทั้งหมดของเขา, ไม่มีเงินสำหรับฉัน. ไม่มีใครดูแลฉัน,ดังนั้น นางมิชชินพาฉันไปอยู่ห้องใต้หลังคาและฉันต้องทำงานเพื่อขนมปังของฉัน”
สุภาพบุรุษชาวอินเดียเดินไปที่เก้าอี้ “อะไร- พ่อของเธอชื่ออะไร?”เขาถาม “บอกฉัน”
ซาร่ามองที่เขาอย่างเศร้าๆ “ราฟล์ ครูว์” เธอพูด
“เขาตายในอินเดียจากการป่วย,2 ปีที่แล้ว”
นายคาร์ริชฟอร์ดหน้าซีดมาก “คาร์ไมเคิล” เขากระซิบ “มันคือลูก –ลูก!”
วันที่หน้าตื่นเต้นสำหรับใครหลายคน ที่เด็กยากจน ซาร่าไม่เข้าใจ. แต่นายคาร์ไมเคิล พูดถึงหล่อนอย่างช้าๆและบอกทุกสิ่งกับหล่อน- เรื่อราวความจริงที่เกี่ยวกับเพื่อนของพ่อของเธอ,เหมืองแร่เพชรและสองปีของการหาลูกสาวราฟล์ ครูว์.
“ตลอดเวลา” เธอพูดกับคาร์ริชฟอร์ดเมือ่พวกเขานั่งที่ไฟ “ฉันอาศัยอยู่บ้านหลังถัดไป”
ทอม คาร์ริชฟอร์ดจับมือหล่อน “ใช่,เธอจะไมกลับไปที่นั้น บ้านเธออยู่ที่นี่ ฉันจะดูแลเธอ นางน้อยของราฟล์ ”
ซาร่าหัวเราะอย่างมีความสุข “และคุณเป็นเพื่อน เช่นกัน” สิ่งที่สวยงามทั้งหมดที่ห้องใต้หลังคามาจากคุณ คุณ- แรม แดส. เบ็คกีและฉันคิดว่าเป็นสิ่งมหัศจรรย์!
สุภาพบุรุษอินเดียยิ้มให้เธอ “พวกเราขอโทษ เธอ” “”แรม แดส ทำอย่างเงียบๆ เขาข้ามหลังคาไปเมื่อหล่อนออกจากห้อง.
ฉันไม่สามารถหาลูกสาวของร่ฟล์ ครูว์ได้ แต่ฉันต้องการช่วยเหลือบางคน และแรม แดส พูดกับฉันเกี่ยวกับสิ่งนี้อย่างเศร้า,เด็กหญิงรับใช้ตัวน้อยโดดเดียวในห้องใต้หลังคา
และเพื่อให้เรื่องจบอย่างมีความสุขสำหรับทุกคน-แต่ไม่สำหรับนางมิชชิน. ซาร่าเป็นคนรวยในตอนนี้,นางมิชชินต้องการหล่อนกลับไปโรงเรียน.เธอมาเห็นนายคาร์ริชฟอร์ด,แต่เขาพูดบางสิ่งถึงหล่อนอย่างโกรธและหล่อนวิ่งหนีไปหน้าแดง
เบ็คกีเขามาอาศัยในบ้านของนายคาร์ริชฟอร์ดเช่นกัน เธอเป็นคนรับใช้ของซาร่าและเธอมีความสุขมาก. เธอมีห้องที่อบอุ่น,ชุดที่ดีและมีของกินที่ดีทุกๆวัน.เธอรักซาร่ามาก
เออร์เมนการ์ดมักจะมาเยี่ยมซาร่าและซาร่าช่วยบทเรียนที่โรงเรียนของหล่อนอีกครั้ง.เออเมนกาดไม่ได้ฉลาด แต่เธอก็เป็นเพื่อนแท้. วันแรกในบ้านของสุภาพบุรุษชาวอินเดีย,ซาร่าเขียนจดหมายถึงเธอและ เออเมนกาดร้องที่เห็นจดหมายเข้าในห้องเรียน.
'มีเพชรที่เหมือง' เธอบอกลาวิเนียและเด็กผู้หญิงคนอื่น ๆ 'มี! มีนับล้านและล้านของเพชรในเหมืองและครึ่งหนึ่งของพวกเขาเป็นของซาร่าและพวกเขามีเพชรของเธอตลอดเวลาเมื่อเธอหนาวและหิวในห้องใต้หลังคา เธอเป็นเจ้าหญิงและเธอเป็นเจ้าหญิงในขณะนี้! '' '





Learning Log 12 การเรียนรู้นอกชั้นเรียน (ภาคบ่าย) 30 ตุลาคม 2558

Learning Log
การเรียนรู้นอกชั้นเรียน
การอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ .ในภาคบ่ายของวันที่ 30 ตุลาคม 2558 
ผศ.ดร. ศิตา ได้จัดกิจกรรม เป็นกิจกรรมที่ให้ผู้เช้าร่วมการอบรมได้มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรม ซึ่งกิจกรรมนั้นเป็นเทคนิคอย่างหนึ่งที่ใช้ในการเรียนการสอนได้  โดยมีกิจกรรม 2 กิจกรรม ประกอบไปด้วย การเรียนการสอนโดยใช้เพลงและให้ผู้เรียนลงมือปฏิบัติซ้ำๆหลายๆ ครั้ง   จะมีกระบวนการขั้นตอนดังต่อไปนี้  คือให้ผู้เรียนฟังเพลงที่มีชื่อว่า Tick Tack Toe โดยอาจารย์เป็นผู้ร้องนำ  หลังจากนั้นอาจารย์ให้จับคู่และร้องเพลง  Tick Tack Toe  พร้อมทั้งเต้นประกอบท่าทางตามเนื้อเพลง  และจบลงด้วยการ เป่า ยิง ฉุบ กัน ฝ่ายไหนแพ้ต้องไปเข้าแถวต่อหลังผู้ชนะ  และเล่นพร้อมทั้งร้องเพลงแบบนี้ไปเรื่อยๆ  จนกว่าจะเจอผู้ชนะที่สามารถชนะได้ทุกคน  ซึ่งสามารถสรุปกระบวนการนี้ได้ว่า  ครูไม่จำเป็นต้องตอกย้ำหรือร้องเพลงนี้อย่างเดียวให้ผู้เรียนฟังแล้วร้องเพลงตาม  ซึ่งวิธีการนี้หากเนื้อหาของเพลงหรือทำนองของเพลงไม่น่าสนใจ ผู้เรียนก็จะไม่สนใจ  ทำให้ผู้เรียนไม่เกิดการเรียนรู้  ดังนั้นสิ่งที่ครูควรจะทำคือ  สอนร้องเพลงผ่านการฟังหลายๆ  ครั้งพร้อมการเต้นประกออบท่าทางไปพร้อมๆกัน  ซึ่งวิธีนี้จะทำให้ค้นพบได้ว่าครูผู้สอนไม่ได้บังคับหรือสั่งให้ผู้เรียนร้องเพลงตามเลย แต่เมื่อจบเกมส์สามารถรับรู้ได้เลยว่าผู้เรียนสามารถร้องเพลงได้เกือบทุกคนโดยที่ไม่จำเป็นต้องสอน  แต่ผลที่ได้รับคือผู้เรียนมีความสุขและความสนุกสนานพร้อมเกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ
                สำหรับการเรียนการสอนโดยให้ผู้เรียนสร้างเรื่องราวคนละประโยคโดยเมื่อนำมาเรียบเรียงแล้วจะได้เรื่องราวหนึ่งจะมีกระบวนการขั้นตอนดังต่อไปนี้   ลำดับแรกนั้นอาจารย์นั้นได้แจกลูกบอลทั้งหมด  20 ลูก  ให้ผู้เข้าร่วมอบรม  โดยมีกติกาของการส่งว่าหากเพลงหยุดที่คนใดหรือลูกบอลหยุดใกล้คนใดมากที่สุด  คนนั้นจะต้องนำลูกบอลมาอยู่ที่หน้าห้อง  ซึ่งลูกบอลแต่ละลูกจะมีหมายเลขเขียนกำกับไว้  1- 20 ให้ผู้เข้าร่วมอบรมนั้นยืนตามลำดับหมายเลขของตนเอง  กติกาคือการต่อเรื่องราวไปเรื่อยๆ  คนละ  1  ประโยคเท่านั้นโดยใช้ภาษาอังกฤษ  และคนที่ 20  จะต้องจบการสร้างเรื่องราวครั้งนี้ให้ได้  ซึ่งระหว่างที่แต่ละคนแต่งโยคนั้น  ถ้าหากประโยคใดแต่งผิดไวยกรณ์อาจารย์จะไม่บอกว่าผิด  แต่จะพูดประโยคใหม่ให้เด็กฟังพร้อมทั้งให้พูดตาม  ซึ่งการเรียนรู้โดยวิธินี้นั้นจะทำให้เด็กทุกคนฟังว่าเพื่อนจะพูดอะไรและเราจะต่อเรื่องราวอย่างไร  จะเป็นการจินตนาการไม่มีถูกไม่มีผิด  พร้อมทั้งคนที่นั่งอยู่ในห้องก็จะตั้งใจฟังว่าเรื่องราวทั้งหมดจะจบลงอย่างไร  ดังนั้นกรับวนการเรียนการสอนแนวนี้เป็นอีกกระบวนการหนึ่งที่ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้อย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ
                ต่อมาเมื่อได้เรื่องราวแล้วให้นำเรื่องราวมาวาดภาพเป็นการสร้างสรรค์เรื่องราวที่ได้แต่งขึ้นเองจะปรากฏออกมาเป็นภาพให้ได้ดูกันโดยภาพนั้นจะเปรียบเสมือนการสรุปเรื่องราวทั้งหมด  และหลังจากนั้นอาจารย์ให้ทุกๆ  กลุ่มออกมานำเสนอรายงานสรุปผล  3  ประโยค  จากภาพและเรื่องราวทั้งหมดซึ่งจะแต่งเป็นประโยคใหม่จากเรื่องราวเดิมเพื่อสรุปใจความสำคัญของเรื่องนี้  ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนของรูปแบบนี้จะทำให้เด็กสามารถเปิดจินตนาการของตนได้อย่างไม่มีขีดจำกัด  ดังนั้นเด็กจะรู้สึกว่า  หากเราทำแล้วไม่ผิดเด็กก็สามารถที่จะแสดงความสามารถอย่างเต็มที่ที่มีอยู่ในตัวเด็ก  ซึ่งกระบวนการเรียนการสอนวิธีนี้ก็จะสามารถทำให้ผู้เรียนมีความสุขพร้อมทั้งสนุกสนานและทำให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ

                จากสองกิจกรรมที่กล่าวมาข้างต้นทั้งกิจกรรม Tic Tac Toe และกิจกรรมการเล่านิทาน ทั้งสองกิจกรรมเป็นกิจกรรมที่สนุกสนานและเป็นกิจกรรมที่กระตุ้นให้ผู้เรียนเกิดความสนใจมากขึ้น เพราะเป็นกิจกรรมที่ได้ทั้งความสนุกสนานและความรู้ ไม่น่าเบื่อ ทั้ง2 กิจกรรมนี้มีวัตถุประสงค์ที่แตกต่างกันออกไป สำหรับตัวดิฉัน ดิฉันชอบกิจกรรมการเล่านิทาน เพราะดิฉันคิดว่า การเล่านิทานสามารถพัฒนาทักษะได้มากกว่า 1 อย่าง ได้ทั้งทักษะการพูด การฟัง เราสามารถฟังเพื่อนได้มากน้อยเพียงใด เป็นต้น  นอกจากทักษะดังกล่าวแล้ว  การเล่านิทานเราสามารถพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ จินตนาการ การสื่อสาร เป็นต้น การเล่านิทานเราสามารถเล่าให้ฟังได้ตั้งแต่ระดับอนุบาล เลือกวิธีการที่เหมาะสมกับตัวนักเรียน ทั้งนี้ทั้งนั้นสิ่งสำคัญก็ต้องให้เหมาะสมกับเด็ก วัยและสภาพแวดล้อมในปัจจุบัน ให้ตรงกับยุคที่ 21 ซึ่งเน้นผู้เรียรเป็นสำคัญ

Learning Log 12 การเรียนรู้นอกชั้นเรียน (ภาคเช้า) 30 ตุลาคม 2558

Learning Log
การเรียนรู้นอกชั้นเรียน
การอบรม เทคนิคการสอนภาษาอังกฤษแบบบูรณาการทักษะ .ในภาคเช้าของวันที่ 30 ตุลาคม 2558  ได้มีการบรรยายถึงกลวิธีการเรียนการสอนในภาษาในปัจจุบันโดย  ผศ. ศิตา  เยี่ยมขันติถาวร  ในหัวข้อวิธีการสอนภาษอังกฤษในศตวรรษที่  21  โดยในหัวข้อจะมีประเด็นที่จะกล่าวถึงดังต่อไปนี้  การเรียนการสอนภาษาอังกฤษตั้งแต่อดีต  การเรียนการสอนในศตวรรษที่  21  กลวิธีการเรียนการสอนภาษาในปัจจุบัน  ซึ่งแนวการสอนจะแบ่งได้  4  ขั้นตอนดังนี้  คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นกฎเกณฑ์ของภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์   แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่แบบบรูณาการเนื้อหาและภาษา

           วิธีการสอนภาษาอังกฤษในศตวรรษที่  21  จะมีแนวการสอนซึ่งสามารถแยกประเภทได้และสามารถแยกประเภทรูปแบบได้ดังนี้ ซึ่งประเภทแรกคือแนวทานการสอน ซึ่งสามารถแบ่งย่อได้  3  ประเภท  คือ  วิธีสอนแบบไวยกรณ์และแปล  วิธีการสอนแบบตรง  วิธีการสอนแบบฟัง-พูด  ประเภทที่  2 คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นการปฏิสัมพันธ์     ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้  7 ประเภทคือ  วิธีการสอนแบบเงียบ  วิธีการสอนแบบธรรมชาติ  วิธีการสอนแบบชักชวน  วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง  การเรียนรู้แบบร่วมมือ  การเรียนรู้แบบภาระงาน  การเรียนรู้จากโครงงาน  ประเภทที่  3  คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่เน้นความเหมาะสมในการใช้ภาษา  สามารถแบ่งย่อยได้ 2  ประเภท  คือ  แนวการสอนเพื่อการสื่อสาร  แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  ประเภทที่  4    คือ  แนวการสอนภาษาอังกฤษที่แบบบรูณาการเนื้อหาและภาษา  ซึ่งสามารถแบ่งย่อยได้  2  ประเภท  การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้  การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ
                วิธีการสอนแบบไวยกรณ์และแปล  ( The  Grammar – Translation Method )  จะเป็นการไม่เน้นการฟังและการพูด  แต่เน้นการเรียนไวยกรณ์และการแปลเพื่อให้ผ็เรียนสามารถอ่านตำราและวรรณคดีภาษากรีกและภาษาละตินได้  และมีวิธีการสอนแบบนี้ในการสอภาษาอังกฤษเป็นภาษาต่างประเทศโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนสามารถอ่านได้เข้าใจและเห็นคุณค่าของคำประพันธ์ภาษาต่างปะเทศ  เน้นการท่องจำ  และความถูกต้องในการใช้ภาษา
                วิธีการสอนแบบตรง  ( The  direct  method )  วิธีสอนแบบตรงมีแนวคิดทางภาษา  คือ  ภาษาพูด  ซึ่งการเรียนภาษา  ซึ่งการให้ผู้เรียนได้สื่อสารด้วยภาษาที่เรียนนั้น  เพื่อให้ประสบผลสำเร็จยิ่งขึ้น  ควรให้ผู้เรียนได้เรียนรู้วิธีการที่จะคิดเป็นภาษาที่เรียนด้วย  ดังนั้นการเรียนการสอนภาษาจึงควรใช้ภาษาต่างประเทศที่เรียนนั้นตลอดเวลา  และสื่อสารราวกับอยู่ในสถานการณ์จริง  มีจุดประสงค์เพื่อให้ผู้เรียนใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารได้  เริ่มการสอนแบบระบบเสียงให้ผู้เรียนฝึกเลียนแบบเสียงและแยกเสียงให้ถูกต้อง  แล้วจึงให้ผู้เรียนฝึกฟังความหมายในประโยค  เช่น  ประโยคคำถาม คำตอบบทสนทนาสั้นๆ
                วิธีการสอนแบบฟัง พูด  ( The  audio - lingual method )  เริ่มจาการฟัง-พูด  ซึ่งเป็นพื้นฐานไปสู่การเรียนและการเขียน  ดังนั้นภาษาที่นำมาให้ผู้เรียนเรียน  ควรเป็นภาษาที่เจ้าของภาษาใช้พูดกันในชีวิตประจำวัน จึงมีการเรียนรู้เกี่ยวกับวัฒนธรรมเจ้าของภาษาด้วย  เริ่มต้นด้วยภาษาพูด  โดยยังไม่ให้ผู้เรียนเห็นรูปแบบของภาษา  ผู้เรียนจะต้องเลียนแบบเสียงของผู้สอน  จนสามารถฟังเข้าใจ  เน้นการท่องจำบทสนทนา   แล้วจึงเริ่มจากฝึกอ่านและเขียน
                วิธีการสอนแบบเงียบ  ( The  Silent  way )  วิธีการสอนนี้มีหลักการที่เน้นความรู้ความเข้าใจเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  ให้ผู้เรียนคิดเอง  ผู้สอนจะพูดน้อยที่สุดและเปิดประตูโอกาสให้ผู้เรียนได้พูด  การแก้ไขปัญหาเป็นส่วนสำคัญของการเรียนรู้  ผู้สอนเป็นเพียงผู้ช่วยเหลือให้ผู้เรียนได้เรียนรู้จากสิ่งแวดล้อม  เพื่อให้ผู้เรียนได้ใช้ความคิดความเข้าใจที่ค้นพบกฎเกณฑ์ทางภาษาด้วยตนเองและจากเพื่อนๆ
                การเรียนรู้แบบภาระงาน  ( Tash -  Based  Learning ) การเรียนรู้แบบเน้นภาระงาน  เป็นการเรียนเรสอนที่ใช้ภาระงาน ( tasks)  เป็นหลัก  โดยให้ผู้เรียนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเรียนการสอน  โดยภาระงานที่นำมาใช้ในการจัดการเรียนการสอนต้องเสริมให้ผู้เรียนได้ใช้ภาษาในการปฏิบัติภาระงานนั้นให้สำเร็จ  ต้องวิเคราะห์  จัดประเภท  จัดลำดับ  และพิจารณาความยากง่ายเพื่อให้เหมาะสมกับผู้เรียนเป็นภาระงานที่ทำให้ผู้เรียนบรรลุตามจุดมุ่งหมาย  และตรงกับความต้องการของผู้เรียน
                การเรียนรู้แบบภาระงาน  ( Project -  Based  Learning )  โครงงาน  คือ งานศึกษาค้นคว้าที่ผู้เรียนทำร่วมกันเกี่ยวกับหัวข้อเรื่องใดเรื่องหนึ่ง  ที่ผู้เรียนต้องการศึกษาแล้วดำเนินการศึกษาค้นคว้าภายในเวลาที่ตกลงกันไว้จนได้ผลตามจุดประสงค์ที่กำหนด  โครงงานเป็นวิธีการสอนให้ผู้เรียนเกิดกระบวนการเรียนรู้ด้วยตนเอง  ซึ่งเป็นการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  การสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ  การทำโครงงาต้องเริ่มต้นจากผู้เรียน  เป็นผู้คิด  ลงมือปฏิบัติ  หาทางแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นโดยมีผู้สอนคอยแนะนำช่วยเหลือ  กระตุ้น  เช่น  การจัดนิทรรศการ
                แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  แนวการสอนภาษาแบบกำหนดสถานการณ์  จะมีลักษณะคล้ายๆ กับ  Role  play   จะเน้นที่ตัวผู้เรียน  ผู้สอนหรือผู้เรียนเลือกสถานการณ์ที่คิดว่าผู้เรียนจะต้องประสบในการใช้ภาษา  แล้วจังเอาภาษาที่ใช้ในสถานการณ์นั้นมาจัดการสอน  ตามวัตถุประสงค์ของผู้เรียนและของบทเรียน  เช่น ผู้เรียนที่เรียนภาษาเพื่อจุดประสงค์ของการท่องเที่ยวก็จะเรียนภาษาในสถานการณ์ที่จะพบเห็นในการท่องเที่ยว  เช่น   At the , Buying  a ticket  Booking  a  hotel.
                แนวการสอนภาษาเพื่อการสื่อสาร  ( The  communicative  approach )  หรือ   Communicative  language  teaching  เป็นการจัดการเรียนการสอนคามทฤษฎีการเรียนรู้ซึ่งมุ่งเน้นความสำคัญของผู้เรียน  จัดลำดับการเรียนรู้เป็นขั้นตอนดามกระบวนการใช้ความคิดของผู้เรียน  โดยเริ่มจากการฟังไปสู่การพูด  การอ่านจับใจความสำคัญ  ทำความเข้าใจ  จดจำ  แล้วนำสิ่งที่ได้เรียนรู้ไปมากกว่าการจดจำ
                วิธีการสอนตามแนวธรรมชาติ  ( The  Natural  approach )  โดยมีการพัฒนาการสอนตามแนวธรรมชาติ  เป็นการเรียนรู้การรับรู้ภาษาที่หนึ่งของเด็กเล็ก  ซึ่งเป็นการรับรู้ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติโดยที่ไม่มีใครสอน  พัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารกับเจ้าของภาษาโดยที่ยังคงให้ความสำคัญของความถูกต้องในการใช้ไวยกรณ์โดยวิธีการตรวจแก้ไขไปเรื่อยๆ  และระยะยาวของผู้เรียนจะสามารถใช้ภาษาในการสื่อสารได้ตามหลักไวยกรณ์  โดยเชื่อว่าความเข้าใจข้อความมาก่อนการพูดการสนทนา  และไม่จำเป็นต้องแสดงออกด้านทักษะการพูด
                วิธีการสอนแบบชักชวนเป็นวิธีการสอนที่นักจิตวิทยาการศึกษาชาวบัลการเรียชื่อ  ( George  Lozanow )  วิธีสอนแบบชักชวนอิงแนวคิดที่ว่าสมองของมนุษย์เต็มไปด้วยพลัง  แต่ถูกนำมาใช้เพียงเล็กน้อย  ผู้สอนจึงควรโน้มน้าวให้ผู้เรียนได้ใช้พลังสมองของตนอย่างเต็มที่โดยขจัดความกลัว  ความวิตกกังวล  และข้อห้ามต่างๆ  ที่เป็นอุปสรรคต่อการเรียนภาษา  ควรให้ผู้เรียนได้เรียนด้วยความสนุกสนานผ่อนคลายทางจิต  กิจกรรมทางภาษาที่เน้นการสื่อสาร  เน้นสภาพแวดล้อมที่เป็นจริงในการใช้ภาษา  เช่น  การแสดงละคร , การฟังบทสนทนามีดนตรีเบาๆ  ประกอบ
                วิธีการสอนแบบตอบสนองด้วยท่าทาง  วิธีการนี้ได้แนวคิดจากงานวิจัยด้านจิตวิทยาพัฒนาการและทฤษฎีการเรียนรู้  โดยเชื่อมโยงกับทฤษฎีของการจำในเชิงจิตวิทยา  มีความเชื่อว่าถ้าบุคคลใดได้รับการฝึกฝนบ่อยๆ  อย่างต่อเนื่อง  ก็จะเกิดการเก็บสะสมประสบการณ์ต่างๆ  และสามารถระลึกและถ่ายทอดออกมาได้  การจำเกิดจากการฝึกท่องจำหรือแสดงท่าทาง  มุ่งพัฒนาความเข้าใจในการฟัง  ในช่วงต้นของการเรียนรู้โดยการแสดงท่าทางใช้คำสั่งเป็นหลักในการสอน
                การเรียนรู้แบบร่วมมือ  ( Cooperative  Leaning )  การจัดการเรียนการสอนที่แบ่งผู้เรียนออกเป็นกลุ่มย่อยๆ  ส่งเสริมให้ผู้เรียนทำงานร่วมกันเพื่อให้ตนเองและสมาชิกทุกคนในกลุ่มประสบความสำเร็จตามเป้าหมายที่กำหนดให้ผู้เรียนมีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกันในลักษณะประชาธิปไตย  เช่น  การคัด  การพูดคุย  กิจกรรมโต๊ะกลม,คู่ตรวจสอบการสอนภาษาว่าควรนำเสนอภาษาใหม่ในรูปแบบภาที่พบในสถานการณ์จริง  เพื่อนำไปสู่การสอนคำศัพท์  ไวยกรณ์  การอออกเสียงมีการฝึกฝนจนเกิดความเข้าใจเนื้อหาไวยกรณ์  สามารถใช้ได้อย่างถูกต้อง  แล้วจึงนำความรู้ที่ได้ไปฝึกในสถานการณ์จริง
                การสอนที่เน้นสาระการเรียนรู้  การภาษาที่นำเนื้อหาวิชาต่างๆ  มาบูรณาการกับจุดหมายของการอสนภาษา  กล่าวคือผู้เรียนใช้ภาษาเป็นเครื่องมือในการเรียนรู้  และในขณะเดียวกันก็พัฒนาการใช้ภาษาเพื่อการสื่อสารไปด้วย  ดังนั้นการคัดเลือกเนื้อหาที่นำมาให้ผู้เรียนได้เรียนจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง  เพราะเนื้อหาที่คัดเลือมาจะต้องเอื้อต่อการบูรณการการสอนภาษาทั้ง  4  ภาษาทักษะ  คือ  การฟัง  การพูด  การอ่าน  การเขียน  นอกจากนี้ยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถพัฒนากระบวนการคิดวิเคราะห์  สามารถตีความประมวลข้อมูลของเรื่อง  และพัฒนาการเขียนเชิงวิชาการที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนั้นๆ  ได้  ทำให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้ภาษาในลักษณะองค์รวม


                การจัดการเรียนรู้แบบบูรณาการ  กลวิธีการเรียนรู้ซึ่งเปิดโอกาสให้ใช้วิธีการตั้งคำถาม  และกระบวนการแก้ปัญหา  เป็นตัวนำกระบวนการแสวงหาความรู้และทักษะโดยไม่ยึดติดโครงสร้างของสาขาวิชาต่างๆ  ทางด้านวิชาการ  เพื่อเป็นประโยชนน์ในการจัดหลักสูตรและจัดการเรียนการสอน  การเรียนรู้แบบบูรณาการเป็นการเชื่อมโยงความคิดรวบยอดจากวิชาและประสบการณ์ต่างๆ  เข้ามาผสมผสานเป็นการส่งเสริมให้มีการขยายโลกทัศน์และวิสันทัศน์ให้กว้างขึ้น  นอกจากนี้ผู้เรียนยังสามารถเชื่อมโยงสิ่งที่เรียนเข้ากับชีวิตจริงและสร้างองค์ความรู้ด้วยตนเอง  จนเกิดการเรียนรู้ที่มีความหมายมากขึ้น