วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

Learning Log 5 การเรียนรู้ในชั้นเรียน

Learning Log 5
การเรียนรู้ในชั้นเรียน
            ในสัปดาห์นี้การเรียนรู้ในชั้นเรียนเรียนเรื่องประโยคต่างๆทั้งประโยค Simple sentence , Compound sentence , Complex sentence และ Compound -Complex sentence ที่ผู้ศึกษาจำเป็นจะต้องศึกษาเพื่อที่จะนำไปต่อยอดในวิชาการแปล นอกจากนี้ในชั้นเรียนยังศึกษา Adjective clause และแปลงให้เป็น Adjective phrases ในสัปดาห์นี้การเรียนรู้นอกชั้นเรียน ดิฉันจึงทบทวนเรื่อง วลี (Phrases) เพื่อที่จะทำความเข้าใจและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ในการแปล
            วลี(Phrases)  คือกลุ่มคำที่ประกอบด้วยคำต่างๆที่นำมาเรียงกันอย่างมีความหมายและทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งในประโยค เช่น ประธาน กริยา กรรม ส่วนเสริม และส่วนกริยาวิเศษณ์ วลีไม่ได้ประกอบด้วยทั้งภาคประธานและภาคแสดง  วลีแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ
·       นามวลี  (noun phrase) จะมีคำนามเป็นหลัก เช่น  women with long hair
·       กริยาวลี (verb phrase) จะมีคำกริยาแท้เป็นหลัก เช่น must have been thinking
·       คุณศัพท์วลี (adjective phrase) จะมีคำคุณศัพท์เป็นหลัก เช่น very happy
·       กริยาวิเศษณ์วลี (adverb phrase) จะมีคำกริยาวิเศษณ์เป็นหลัก เช่น very thoroughly
·       บุพบทวลี (prepositional phrase) จะมีคำบุพบทเป็นหลัก เช่น in the warehouse

1. นามวลี (noun phrase)

            1.1 โครงสร้างของ noun phrase 
คำหลักใน noun phrase คือ คำนามหรือคำสรรพนาม  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       คำกำกับนามและคำนาม
เช่น  these houses
·       คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนาม และคำนาม
เช่น  these big houses
·       คำนามและส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  houses made of wood
·       คำกำกับนาม คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  some houses made of wood
·       ส่วนขยายหน้าคำนาม  คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  big houses made of wood
·       คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนาม  คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  some big houses made of wood
            ขอให้สังเกตว่า noun phrase มักมีคำกำกับนามและส่วนขยายเข้ามาเกี่ยวข้อง  โดยส่วนขยายส่วนมากจะเป็นคำคุณศัพท์   ในการใช้คำคุณศัพท์และคำนามขยายคำนามหลัก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ลำดับตำแหน่งของคำขยายเหล่านั้นเมื่อนำมาวางไว้ข้างหน้าคำนามหลัก  โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายคำนามจะมีเพียงสองสามคำ  แต่บางครั้งอาจมีส่วนขยายได้หลากหลาย โดยมีลำดับของคำคุณศัพท์และคำนามขยายหน้าคำนามหลักดังนี้
คำกำกับนาม
(determiner)
ความรู้สึก หรือความคิดเห็น
(feeling/opinion)
ขนาด หรือ รูปร่าง
size/shape
อายุ
(age)
สี
(color)
ต้นกำเนิด  หรือที่มา
(origin)
วัสดุ
(material)
คำนามหลัก
(head noun)
a
practical
small
old
-
German
-
knife
that
-
big
new
brown
-
plastic
bag
this
beautiful
long
-
black
Japanese
nylon
umbrella

            อย่างไรก็ตาม การเรียงลำดับคำคุณศัพท์หน้าคำนามหลัก อาจผิดไปจากลำดับที่กล่าวไว้ในที่นี้ได้ โดยวางคำที่ต้องการเน้นไว้ใกล้คำนามหลักมากกว่า เช่น
            a sick young boy (เด็กน้อยที่มีอาการเจ็บป่วย)
            a young sick boy (เด็กคนป่วยที่ยังมีอายุน้อย)

            1.2 หน้าที่ของ noun phrase   นามวลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนาม เช่น
                        1.2.1 เป็นประธาน  เช่น
                                    All the passengers were safe.
                        1.2.2 เป็นกรรม  เช่น
                                    We really enjoyed the food at that restaurant.
                        1.2.3 เป็นกรรมตรงและกรรมรอง  เช่น
                                    The manager gave all of us (กรรมรองa double raise. (กรรมตรง)
                        1.2.4 เป็นส่วนเสริมประธาน  เช่น
                                    The clock was a Christmas present from the ABC Company.
                        1.2.5 เป็นส่วนเสริมกรรม  เช่น
                                    We considered Mr. Johnson the best employee.
                        1.2.6 เป็นกรรมของบุพบท  เช่น
                                    The box of chocolates is intended for your children.
                        1.2.7 เป็นส่วนขยายคำนามอื่น  เช่น
                                    John suffers from back problems
                        1.2.8 เป็นกริยาวิเศษณ์  เช่น
                                    School starts next month.

2. กริยาวลี (verb phrase)

verb phrase ประกอบด้วย main verb (กริยาแท้) และ auxiliary verb (กริยาช่วย) ใน verb phrase หนึ่ง ๆ อาจมีกริยาช่วยมากกว่า 1 คำ 
ตัวอย่าง
·       Jane will work on a night shift.
(will work เป็น verb phrase ซึ่งมี work เป็นกริยาแท้ และ will เป็นกริยาช่วย
·       Jane will be working on a night shift next week.
(will be working เป็น verb phrase ซึ่งมี working เป็นกริยาแท้  ส่วน will และ be เป็นกริยาช่วย
verb phrase ทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยา คือ บอกให้ทราบว่าประธานของประโยคทำอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นกับประธานของประโยค

3. คุณศัพท์วลี (adjective phrase)

            3.1 โครงสร้างของ adjective phrase 
adjective phrase ประกอบด้วยคำคุณศัพท์กับส่วนขยายคำคุณศัพท์  ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ และประเภทที่อยู่หลังคำคุณศัพท์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์และคำคุณศัพท์
เช่น  very happy
·       คำคุณศัพท์และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์
เช่น happy to see you
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ คุณศัพท์ และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์
เช่น  very happy to see you
            3.2 หน้าที่ของ adjective phrase   คุณศัพท์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์ เช่น
                        3.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำนาม เช่น
                                    Highly sensitive people are hard to deal with.
                        3.2.2 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมประธาน เช่น
                                    The children are very happy to see their parents.
                        3.2.3 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมกรรม เช่น
                                    The teachers made us aware of the importance of the entrance exams.
                        3.2.4 ทำหน้าที่ขยายคำสรรพนาม โดยอยู่ข้างหลังคำสรรพนามที่ถูกขยาย เช่น
                                    I want to eat something very spicy.



4. กริยาวิเศษณ์วลี (adverb phrase)

            4.1 โครงสร้างของ adverb phrase 
adverb phrase ประกอบด้วยคำกริยาวิเศษณ์กับส่วนขยาย ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่ข้างหน้าและประเภทที่อยู่ข้างหลังคำกริยาวิเศษณ์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์ และคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น  very quickly
·       คำกริยาวิเศษณ์  ละส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น quickly indeed
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์  คำกริยาวิเศษณ์  และส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น  very quickly indeed
            4.2 หน้าที่ของ adverb phrase  กริยาวิเศษณ์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยาวิเศษณ์  ดังนี้
                        4.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์อื่น เช่น
                                    Henry walked extremely quickly.
                                    These umbrellas are very beautifully made.
                        4.2.2 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น
                                    Surprisingly indeed, everybody survived in the car accident.

5. บุพบทวลี (prepositional phrase)

            5.1 โครงสร้างของ prepositional phrase 
prepositional phrase ประกอบด้วยคำบุพบทและส่วนเสริม (complement) ซึ่งตำราบางเล่มจะเรียกว่า กรรมของบุพบท  ส่วนเสริมมี 3 ประเภทคือ
·       ส่วนเสริมที่เป็น noun phrase
เช่น  through the back door
·       ส่วนเสริมที่เป็น noun clause
เช่น  from what I have heard
·       ส่วนเสริมที่อยู่ในรูปกริยาเติม (v–ing)
เช่น  after speaking to you
            5.2 หน้าที่ของ prepositional phrase   บุพบทวลีทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                        5.2.1 ทำหน้าที่ขยายประธานของประโยค โดยอยู่ตามหลังกริยา BE หรือกริยาเชื่อม (linking verb) เช่น
                                    Mr. Johnson is in the meeting room.
                        5.2.2 ทำหน้าที่ขยาย noun phrase โดยอยู่ในตำแหน่งหลัง noun phrase ที่ถูกขยาย เช่น
                                    Jane took a course in advanced mathematics.
                                    Kate bought a house with a beautiful garden.
                        5.2.3 ทำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ โดยอยู่ในตำแหน่งหลังคำคุณศัพท์ที่ถูกขยาย เช่น
They are aware of the danger of the AIDS virus.
I am happy with what I have.
                        5.2.4 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น
In fact, the economy is improving.
In my opinion, people are basically good.
            นอกจากการศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง Phrase แล้ว ยังศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง Adjective clause ในเรื่องของหลักการใช้คำประพันธสรรพนาม Relative pronouns  เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียน Relative pronouns เป็นสรรพนามที่ใช้เชื่อมใจความสำคัญเข้าด้วยกันโดยใช้เชื่อม Adjective clause ที่ทำหน้าเป็นคุณศัพท์ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่วางอยู่ข้างหน้าของมัน ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
1 who ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคลหรือเกี่ยวกับคน ซึ่งเป็นประธานของใจความขยาย2 whom ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคลกรือเกี่ยวกับคนซึ่งเป็นกรรมของใจความขยาย3 whose ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของบุคคล 4 which ใช้กับคำนามหรือสรรพนามที่เป็นสิ่งของ สัตว์ ซึ่งหากเป็นกรรมของใจความขยายก็สามารถละทิ้งได้ 5 where ใช้กับคำนามประเภท สถานที่ ซึ่งถาหากเป็นกรรมของใจความขยายก็สามารถละทิ้งได้ 6 when ใช้กับคำนามที่บอกเวลา เพื่อขยายที่อยู่ข้างหน้าของมัน7 why ใช้ขยายคำนามที่มีความหมายถึงสาเหตุ เหตุผล คำอธิบาย ซึ่งวางอยู่ข้างหน้าของมัน8 that สามารถใช้แทน who , whom , where , which  ได้ ที่กล่าวมาข้างต้น ผูเรียนจำเป็นต้องศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจและนำไปใช้ในประโยคได้ถูกต้อง       จาการศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้เป็นการทบทวน Phrase , หลักการใช้คำประพันธสรรพนาม ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวเป็นประโยชน์สำหรับการเรียน    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น

วันศุกร์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2558

Learning Log 5 การเรียนรู้ในชั้นเรียน

Learning Log 5
การเรียนรู้ในชั้นเรียน
            ในสัปดาห์นี้การเรียนรู้ในชั้นเรียนเรียนเรื่องประโยคต่างๆทั้งประโยค Simple sentence , Compound sentence , Complex sentence และ Compound -Complex sentence ที่ผู้ศึกษาจำเป็นจะต้องศึกษาเพื่อที่จะนำไปต่อยอดในวิชาการแปล นอกจากนี้ในชั้นเรียนยังศึกษา Adjective clause และแปลงให้เป็น Adjective phrases ในสัปดาห์นี้การเรียนรู้นอกชั้นเรียน ดิฉันจึงทบทวนเรื่อง วลี (Phrases) เพื่อที่จะทำความเข้าใจและสามารถนำความรู้ที่ได้ไปต่อยอดหรือใช้ประโยชน์ในการแปล
            วลี(Phrases)  คือกลุ่มคำที่ประกอบด้วยคำต่างๆที่นำมาเรียงกันอย่างมีความหมายและทำหน้าที่ใดหน้าที่หนึ่งในประโยค เช่น ประธาน กริยา กรรม ส่วนเสริม และส่วนกริยาวิเศษณ์ วลีไม่ได้ประกอบด้วยทั้งภาคประธานและภาคแสดง  วลีแบ่งออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ๆ
·       นามวลี  (noun phrase) จะมีคำนามเป็นหลัก เช่น  women with long hair
·       กริยาวลี (verb phrase) จะมีคำกริยาแท้เป็นหลัก เช่น must have been thinking
·       คุณศัพท์วลี (adjective phrase) จะมีคำคุณศัพท์เป็นหลัก เช่น very happy
·       กริยาวิเศษณ์วลี (adverb phrase) จะมีคำกริยาวิเศษณ์เป็นหลัก เช่น very thoroughly
·       บุพบทวลี (prepositional phrase) จะมีคำบุพบทเป็นหลัก เช่น in the warehouse

1. นามวลี (noun phrase)

            1.1 โครงสร้างของ noun phrase 
คำหลักใน noun phrase คือ คำนามหรือคำสรรพนาม  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       คำกำกับนามและคำนาม
เช่น  these houses
·       คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนาม และคำนาม
เช่น  these big houses
·       คำนามและส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  houses made of wood
·       คำกำกับนาม คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  some houses made of wood
·       ส่วนขยายหน้าคำนาม  คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  big houses made of wood
·       คำกำกับนาม ส่วนขยายหน้าคำนาม  คำนาม และส่วนขยายหลังคำนาม
เช่น  some big houses made of wood
            ขอให้สังเกตว่า noun phrase มักมีคำกำกับนามและส่วนขยายเข้ามาเกี่ยวข้อง  โดยส่วนขยายส่วนมากจะเป็นคำคุณศัพท์   ในการใช้คำคุณศัพท์และคำนามขยายคำนามหลัก สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ ลำดับตำแหน่งของคำขยายเหล่านั้นเมื่อนำมาวางไว้ข้างหน้าคำนามหลัก  โดยทั่วไปคำคุณศัพท์ที่ใช้ขยายคำนามจะมีเพียงสองสามคำ  แต่บางครั้งอาจมีส่วนขยายได้หลากหลาย โดยมีลำดับของคำคุณศัพท์และคำนามขยายหน้าคำนามหลักดังนี้
คำกำกับนาม
(determiner)
ความรู้สึก หรือความคิดเห็น
(feeling/opinion)
ขนาด หรือ รูปร่าง
size/shape
อายุ
(age)
สี
(color)
ต้นกำเนิด  หรือที่มา
(origin)
วัสดุ
(material)
คำนามหลัก
(head noun)
a
practical
small
old
-
German
-
knife
that
-
big
new
brown
-
plastic
bag
this
beautiful
long
-
black
Japanese
nylon
umbrella

            อย่างไรก็ตาม การเรียงลำดับคำคุณศัพท์หน้าคำนามหลัก อาจผิดไปจากลำดับที่กล่าวไว้ในที่นี้ได้ โดยวางคำที่ต้องการเน้นไว้ใกล้คำนามหลักมากกว่า เช่น
            a sick young boy (เด็กน้อยที่มีอาการเจ็บป่วย)
            a young sick boy (เด็กคนป่วยที่ยังมีอายุน้อย)

            1.2 หน้าที่ของ noun phrase   นามวลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำนาม เช่น
                        1.2.1 เป็นประธาน  เช่น
                                    All the passengers were safe.
                        1.2.2 เป็นกรรม  เช่น
                                    We really enjoyed the food at that restaurant.
                        1.2.3 เป็นกรรมตรงและกรรมรอง  เช่น
                                    The manager gave all of us (กรรมรองa double raise. (กรรมตรง)
                        1.2.4 เป็นส่วนเสริมประธาน  เช่น
                                    The clock was a Christmas present from the ABC Company.
                        1.2.5 เป็นส่วนเสริมกรรม  เช่น
                                    We considered Mr. Johnson the best employee.
                        1.2.6 เป็นกรรมของบุพบท  เช่น
                                    The box of chocolates is intended for your children.
                        1.2.7 เป็นส่วนขยายคำนามอื่น  เช่น
                                    John suffers from back problems
                        1.2.8 เป็นกริยาวิเศษณ์  เช่น
                                    School starts next month.

2. กริยาวลี (verb phrase)

verb phrase ประกอบด้วย main verb (กริยาแท้) และ auxiliary verb (กริยาช่วย) ใน verb phrase หนึ่ง ๆ อาจมีกริยาช่วยมากกว่า 1 คำ 
ตัวอย่าง
·       Jane will work on a night shift.
(will work เป็น verb phrase ซึ่งมี work เป็นกริยาแท้ และ will เป็นกริยาช่วย
·       Jane will be working on a night shift next week.
(will be working เป็น verb phrase ซึ่งมี working เป็นกริยาแท้  ส่วน will และ be เป็นกริยาช่วย
verb phrase ทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยา คือ บอกให้ทราบว่าประธานของประโยคทำอะไร หรือเกิดอะไรขึ้นกับประธานของประโยค

3. คุณศัพท์วลี (adjective phrase)

            3.1 โครงสร้างของ adjective phrase 
adjective phrase ประกอบด้วยคำคุณศัพท์กับส่วนขยายคำคุณศัพท์  ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ และประเภทที่อยู่หลังคำคุณศัพท์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์และคำคุณศัพท์
เช่น  very happy
·       คำคุณศัพท์และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์
เช่น happy to see you
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำคุณศัพท์ คุณศัพท์ และส่วนขยายที่อยู่หลังคำคุณศัพท์
เช่น  very happy to see you
            3.2 หน้าที่ของ adjective phrase   คุณศัพท์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำคุณศัพท์ เช่น
                        3.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำนาม เช่น
                                    Highly sensitive people are hard to deal with.
                        3.2.2 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมประธาน เช่น
                                    The children are very happy to see their parents.
                        3.2.3 ทำหน้าที่เป็นส่วนเสริมกรรม เช่น
                                    The teachers made us aware of the importance of the entrance exams.
                        3.2.4 ทำหน้าที่ขยายคำสรรพนาม โดยอยู่ข้างหลังคำสรรพนามที่ถูกขยาย เช่น
                                    I want to eat something very spicy.



4. กริยาวิเศษณ์วลี (adverb phrase)

            4.1 โครงสร้างของ adverb phrase 
adverb phrase ประกอบด้วยคำกริยาวิเศษณ์กับส่วนขยาย ซึ่งมีทั้งประเภทที่อยู่ข้างหน้าและประเภทที่อยู่ข้างหลังคำกริยาวิเศษณ์  โดยอาจมีโครงสร้างใดโครงสร้างหนึ่งต่อไปนี้
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์ และคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น  very quickly
·       คำกริยาวิเศษณ์  ละส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น quickly indeed
·       ส่วนขยายที่อยู่หน้าคำกริยาวิเศษณ์  คำกริยาวิเศษณ์  และส่วนขยายที่อยู่หลังคำกริยาวิเศษณ์ 
เช่น  very quickly indeed
            4.2 หน้าที่ของ adverb phrase  กริยาวิเศษณ์วลีทำหน้าที่เช่นเดียวกับคำกริยาวิเศษณ์  ดังนี้
                        4.2.1 ทำหน้าที่ขยายคำกริยา คำคุณศัพท์ และคำกริยาวิเศษณ์อื่น เช่น
                                    Henry walked extremely quickly.
                                    These umbrellas are very beautifully made.
                        4.2.2 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น
                                    Surprisingly indeed, everybody survived in the car accident.

5. บุพบทวลี (prepositional phrase)

            5.1 โครงสร้างของ prepositional phrase 
prepositional phrase ประกอบด้วยคำบุพบทและส่วนเสริม (complement) ซึ่งตำราบางเล่มจะเรียกว่า กรรมของบุพบท  ส่วนเสริมมี 3 ประเภทคือ
·       ส่วนเสริมที่เป็น noun phrase
เช่น  through the back door
·       ส่วนเสริมที่เป็น noun clause
เช่น  from what I have heard
·       ส่วนเสริมที่อยู่ในรูปกริยาเติม (v–ing)
เช่น  after speaking to you
            5.2 หน้าที่ของ prepositional phrase   บุพบทวลีทำหน้าที่ดังต่อไปนี้
                        5.2.1 ทำหน้าที่ขยายประธานของประโยค โดยอยู่ตามหลังกริยา BE หรือกริยาเชื่อม (linking verb) เช่น
                                    Mr. Johnson is in the meeting room.
                        5.2.2 ทำหน้าที่ขยาย noun phrase โดยอยู่ในตำแหน่งหลัง noun phrase ที่ถูกขยาย เช่น
                                    Jane took a course in advanced mathematics.
                                    Kate bought a house with a beautiful garden.
                        5.2.3 ทำหน้าที่ขยายคำคุณศัพท์ โดยอยู่ในตำแหน่งหลังคำคุณศัพท์ที่ถูกขยาย เช่น
They are aware of the danger of the AIDS virus.
I am happy with what I have.
                        5.2.4 ทำหน้าที่ขยายประโยค เช่น
In fact, the economy is improving.
In my opinion, people are basically good.
            นอกจากการศึกษาเพิ่มเติมเรื่อง Phrase แล้ว ยังศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเรื่อง Adjective clause ในเรื่องของหลักการใช้คำประพันธสรรพนาม Relative pronouns  เพื่อที่จะนำไปประยุกต์ใช้ในการเรียน Relative pronouns เป็นสรรพนามที่ใช้เชื่อมใจความสำคัญเข้าด้วยกันโดยใช้เชื่อม Adjective clause ที่ทำหน้าเป็นคุณศัพท์ขยายคำนามหรือคำสรรพนามที่วางอยู่ข้างหน้าของมัน ซึ่งมีเนื้อหาดังนี้
1 who ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคลหรือเกี่ยวกับคน ซึ่งเป็นประธานของใจความขยาย2 whom ใช้กับคำนามที่เป็นบุคคลกรือเกี่ยวกับคนซึ่งเป็นกรรมของใจความขยาย3 whose ใช้แสดงความเป็นเจ้าของของบุคคล 4 which ใช้กับคำนามหรือสรรพนามที่เป็นสิ่งของ สัตว์ ซึ่งหากเป็นกรรมของใจความขยายก็สามารถละทิ้งได้ 5 where ใช้กับคำนามประเภท สถานที่ ซึ่งถาหากเป็นกรรมของใจความขยายก็สามารถละทิ้งได้ 6 when ใช้กับคำนามที่บอกเวลา เพื่อขยายที่อยู่ข้างหน้าของมัน7 why ใช้ขยายคำนามที่มีความหมายถึงสาเหตุ เหตุผล คำอธิบาย ซึ่งวางอยู่ข้างหน้าของมัน8 that สามารถใช้แทน who , whom , where , which  ได้ ที่กล่าวมาข้างต้น ผูเรียนจำเป็นต้องศึกษาเพื่อที่จะเข้าใจและนำไปใช้ในประโยคได้ถูกต้อง       จาการศึกษานอกห้องเรียนครั้งนี้เป็นการทบทวน Phrase , หลักการใช้คำประพันธสรรพนาม ซึ่งเนื้อหาดังกล่าวเป็นประโยชน์สำหรับการเรียน    

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น